ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC)คงประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 55 ไว้ที่ 5.6-5.8% เช่นเดิม แม้ว่าในไตรมาส 1/55 เศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่าที่คาด โดยเป็นการเติบโตจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวได้ดีจากไตรมาสที่แล้ว GDP ของภาคอุตสาหกรรมขยายตัวถึง 26.4%QOQ หรือกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้วก่อนเกิดวิกฤตอุทกภัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ดี การผลิตโดยรวมยังไม่กลับสู่ระดับปกติทำให้ภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสนี้ยังหดตัว 4.2%YOY
การบริโภคและการลงุทนภาคเอกชนขยายตัวเร่งขึ้น การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัว 2.7%YOY ส่วนหนึ่งมาจากสินค้าที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวได้ดี ทั้งนี้การใช้จ่ายน่าจะขยายตัวดีกว่านี้หากอุตสาหกรรมยานยนต์มีสินค้าเพียงพอ สำหรับการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว 9.2%YOY นั้นมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการเร่งนำเข้าสินค้าทุนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังเร่งเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังอีกด้วย
การใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออกยังหดตัว โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐที่หดตัวถึง 9.6%YOY ซึ่งมีสาเหตุมาจากการชะลอการซื้อสินค้าทุน โดยเมื่อรวมกับการบริโภคภาครัฐที่หดตัว 1.6%YOY แล้วมีผลทำให้ GDP ขยายตัวได้น้อยลงประมาณ 0.5%YOY สำหรับการค้าระหว่างประเทศนั้น การส่งออกปรับตัวดีขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้าแต่ยังหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่การใช้จ่ายภาครัฐจะขยายตัวต่ำกว่าที่ได้ประมาณการในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมคงมุมมองดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศขยายตัวได้ดี แต่ยังต่ำกว่าการประมาณการของ EIC ดังนั้น ความเสี่ยงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเพื่อลดความร้อนแรงของอุปสงค์และควบคุมเงินเฟ้อนั้นยังมีไม่มากนัก