นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ยอมรับว่าราคาทองค่อนข้างผันผวนและกระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐทำให้เกิดความผันผวนตามไปดด้วย แต่ไม่ถึงกับส่งผลให้ค่าเงินบาทเปลี่ยนทิศทางอย่างมีนัยสำคัญ จึงยังไม่มีประเด็นน่าเป็นห่วงมากนัก ทั้งนี้ ธปท.มีการหารือสมาคมผู้ค้าทองอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามสถานการณ์ราคาทองคำ
สาเหตุที่ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐในระยะนี้ไม่ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงมากนักตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคที่อ่อนค่าลง จากการเทขายทำกำไรในหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างประเทศทั้งภูมิภาครวมทั้งไทย เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเปลี่ยนการลงทุนจากหลักทรัพย์เป็นตราสารหนี้ระยะยาว ดังนั้น เงินทุนจึงยังไม่ไหลออก ดังนั้น ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายของไทยจึงยังเป็นการไหลเข้าสุทธิ
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ธปท.กล่าวว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 1/55 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)แถลงซึ่งเติบโต 0.3% ถือเป็นการฟื้นตัวในลักษณะตัว“V"ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่า ธปท.คาดว่าจะติดลบ 0.17% เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งเป็นหลัก
ขณะเดียวกันแรงส่งทางเศรษฐกิจไม่น่าเป็นห่วง ในแง่ของดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการซึ่งปรับตัวดีขึ้น ภาคเอกชนสามารถปรับขึ้นราคาสินค้า รวมทั้งสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะยังคงดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยปีนี้ทั้งปีธปท.คาดไว้ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 6% โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่โดยปกติเศรษฐกิจจะขยายตัวสูงมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกต้องไม่แย่กว่าที่คาด ขณะที่ธปท.คงต้องดูหลายปัจจัยทั้งในและนอกประเทศประกอบกับการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงิน
“เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งการเติบโตอีกมาก จึงเชื่อว่าจะทำให้จะสามารถรองรับกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้"นายทรงธรรม กล่าว