พาณิชย์เตรียมส่งไก่ไทยไปอียูหลังปลดล็อก 1 ก.ค.นี้ เล็งรุกญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ต่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 23, 2012 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ สหภาพยุโรป (อียู) จะยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อไก่สดจากไทย หลังจากการห้ามนำเข้ามาตั้งแต่ต้นปี 47 ทั้งนี้คาดว่าไทยจะส่งออกไก่สดแช่แข็งได้ 5,100 ตัน ภาษีในโควตา 0% และไก่หมักเกลือที่ได้รับการชดเชยจากอียูเมื่อปี 49 อีก 92,610 ตัน ภาษีในโควตา 15.4% ได้อย่างเต็มที่

"นับตั้งแต่อียูห้ามนำเข้า ไทยไม่สามารถส่งออกไก่สดไปอียูได้ ส่วนไก่หมักเกลือก็แทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากโควตาเลย ขณะเดียวกัน ไทยยังมีสิทธิใช้โควตาส่งออกไก่ประเภททั่วไป ที่อียูจัดสรรให้กับทุกประเทศ แต่มีอัตราภาษีนำเข้าสูงตั้งแต่ 93-512%" นางศรีรัตน์ กล่าว

สำหรับการเจรจาโควตาสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป เพื่อชดเชยกรณีที่อียูขอปรับตารางข้อผูกพันภาษีศุลกากรสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปภายใต้องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) จำนวน 8 รายการนั้น ล่าสุด อียูได้จัดสรรโควตาสัตว์ปีกแปรรูป (เป็ดและไก่แปรรูป) ให้เป็นการเฉพาะแก่ไทย รวม 30,810 ตัน แบ่งเป็นเนื้อไก่แปรรูป 16,100 ตัน และเนื้อเป็ดแปรรูป 14,710 ตัน ภาษีในโควตา 10.9% ยกเว้นเนื้อเป็ดดิบที่มีภาษีในโควตา 630 ยูโรต่อตัน และภาษีนอกโควตา 2,765 ยูโรต่อตันสำหรับสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปทุกรายการ

ทั้งนี้ ในการใช้ประโยชน์จากการชดเชยกรณีดังกล่าว รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบความตกลงโควตาภาษีสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปกับสหภาพยุโรปแล้ว คาดว่าระบบโควตาภาษีจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยให้สัตว์ปีกแปรรูปไทยมีส่วนแบ่งตลาดในอียูที่แน่นอน โดยเฉพาะเป็ดแปรรูป ที่กำลังสูญเสียตลาดให้แก่จีนอย่างรวดเร็ว นางศรีรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งผลักดันการเปิดตลาดไก่สดแช่แข็งไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเคยเป็นตลาดไก่สดแช่แข็งอันดับต้นๆ ของไทย หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศห้ามนำเข้ามาตั้งแต่ปี 47 จากการระบาดของไข้หวัดนกเช่นกัน คาดว่าจะเจรจาได้สำเร็จในเร็วๆ นี้ และจะทำให้การส่งออกไก่สดแช่แข็งของไทยขยายตัวได้มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ