ตลาดหุ้นยุโรปลบ 1.8% เหตุกังวลสถานการณ์กรีซ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday May 23, 2012 21:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงในวันนี้ จากความวิตกกังวลเรื่องสถานการณ์ในประเทศกรีซ โดยหลายฝ่ายเกรงว่าในที่สุดแล้วกรีซอาจออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 (SXXP) ร่วงลง 1.8% แตะ 240.41 จุด ณ เวลา 13.40 น.ตามเวลาลอนดอน หลังจากที่ทะยาน 2.5% ตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา

หุ้นลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป พีแอลซี ดิ่งหนักสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ส่วนหุ้นเบอร์เบอรี่ กรุ๊ป พีแอลซี ลบ 2% ขณะที่หุ้นมิชลินก็ปรับตัวลดลง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความวิตกกังวลเรื่องกรีซเป็นปัจจัยหลักที่ถ่วงตลาด โดยเฉพาะหลังจากที่นายลูคัส ปาปาเดมอส อดีตนายกรัฐมนตรีกรีซ ให้สัมภาษณ์ว่า มีความเสี่ยงที่กรีซอาจจะออกจากกลุ่มยูโรโซน แม้ว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม

ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้ ด้วยความหวังว่าจะมีการดำเนินการมากขึ้นเพื่อจัดการกับวิกฤตหนี้ ขณะเดียวกันตลาดคาดหวังว่า เยอรมนีและฝรั่งเศสจะสามารถตกลงกันได้ และยูโรโซนจะรักษาความเป็นเอกภาพเอาไว้ได้ แทนที่จะหารือถึงแผนการแยกตัว

อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความคาดหวังไม่มากนัก เนื่องจากการหารืออาจยิ่งสะท้อนถึงความแตกแยกทางการเมืองมากขึ้น แต่หากผลการประชุมออกมาดีกว่านั้น ตลาดก็จะขานรับในเชิงบวกทันที

อีกปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงคือ การที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษเดือนเมษายนลดลง 2.3% ซึ่งเป็นการปรับลงมากที่สุดนับแต่เดือนมกราคม 2553 เทียบกับระดับ 2.0% ในเดือนมีนาคม

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดค้าปลีกเดือนเมษายนลดลง 1.1% ซึ่งร่วงลงมากที่สุดนับแต่เดือนสิงหาคม 2554

ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกที่ลดลงอย่างฮวบฮาบทั้งในรายเดือนและรายปีได้ตอกย้ำว่า ชาวอังกฤษยังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูง ท่ามกลางภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยมีอุปสงค์ที่อ่อนแรงลงอย่างมากในด้านเชื้อเพลิงและเสื้อผ้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ