สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนเตรียมให้ความสำคัญมากขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและจะออกมาตรการมากขึ้น เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นดังกล่าวหลังได้รับข้อมูลจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้
คณะรัฐมนตรีเปิดเผยหลังการประชุมว่า ทางการควรให้ความสำคัญมากขึ้นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ และการหนุนอุปสงค์ภายในประเทศในเชิงรุก ในขณะที่เศรษฐกิจของจีนเผชิญ"แรงกดดันในช่วงลงมากขึ้น"
นายหลิว หยวนชุน รองคณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเหรินหมิน กล่าวว่าการที่เศรษฐกิจเติบโตช้าลงมีปัจจัยหลักมาจากภาวะแวดล้อมที่ซบเซาในต่างประเทศ การควบคุมระดับมหภาคโดยสมัครใจก่อนหน้านี้ และความเชื่อมั่นในตลาดที่ย่ำแย่
นายลี ฮุยยง ผู้บริหารงานวิเคราะห์ระดับมหภาคของบริษัทเซินยิน แอนด์ วานกั๋วกล่าวว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคงในระยะสั้น เนื่องจากจีนยังมีแหล่งเงินทุนมหาศาลซึ่งจะใช้ได้ในช่วงแผนระยะ 5 ปีฉบับที่12 (ช่วงปี 2554-2558) ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจได้แบบทันท่วงทีมากขึ้น
นายลี กล่าวเพิ่มอีกว่า อย่างไรก็ตาม จีนควรพึ่งพาการขยายอุปสงค์ภายในประเทศมากขึ้น เพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยาว
ความพยายามให้ความช่วยเหลือด้านการจ้างงาน การก่อสร้างบ้านราคาย่อมเยา การปฏิรูประบบสาธารณสุขและประกันสังคม จะไม่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ แต่จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าว