สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ธนาคารของจีนมียอดขาดดุล 3.7 พันล้านดอลลาร์จากการขายและซื้อสกุลเงินต่างประเทศสำหรับลูกค้าในช่วงเดือนเม.ย. หลังจากที่เกินดุลมาเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน
SAFE ระบุว่า ธนาคารของจีนซื้อสกุลเงินต่างประเทศวงเงิน 1.10 แสนล้านดอลลาร์ และขาย 1.13 แสนล้านดอลลาร์สำหรับลูกค้าในช่วงเดือนเม.ย. ส่งผลให้ขาดดุล 3.7 พันล้านดอลลาร์
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากคาดการณ์ที่มากขึ้นว่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลง และยอดเกินดุลการค้าที่ลดลงในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ธนาคารต่างๆขาดดุล 800 ล้านดอลลาร์ และ 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการขายและซื้อสกุลเงินต่างประเทศสำหรับลูกค้าในเดือน พ.ย.และธ.ค.ตามลำดับ โดยมีเพียงยอดขาดดุลแค่ 2 ครั้งเท่านั้น นับตั้งแต่ที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนม.ค.2553
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้เรียกร้องให้มีการลดการควบคุมการปฏิรูปการเงินของเมืองเวินโจว และสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนมากขึ้น
นายโจวกล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลควรจะส่งเสริมการวิจัยและการประสานงานด้านนโยบาย ขณะที่องค์กรต่างๆในเมืองเวินโจวก็ควรจะริเริ่มแผนเพื่อหนุนนวัตกรรมการเงิน
-- บล.อินดัสเตรียลคาดการณ์ว่า ยอดปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ของจีนอาจจะอยู่ที่ 7 แสนล้านหยวนในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับเดือนเม.ย.ที่ 6.81 แสนล้านหยวน
โบรกเกอร์กล่าวว่า การเร่งการอนุมัติโครงการสาธารณูปโภคต่างๆอาจจะนำไปสู่การปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน