นายจู หมิน รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ยุโรปต้องมีแผนขั้นสุดท้ายในการคลี่คลายวิกฤตหนี้ของภูมิภาค และยุโรปต้องจัดการวิกฤตในระบบการธนาคารอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีความสำคัญเชิงระบบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
นายจูระบุว่ายุโรปต้องมีแผนการปฏิรูปที่น่าเชื่อถือในระยะกลาง ขณะที่ในระยะใกล้ต้องมีแนวทางในการฟื้นความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ เขาได้แสดงความชื่นชมความคืบหน้าในความพยายามกำหนดมาตรการป้องกันเพื่อสกัดการลุกลามของวิกฤต
นายูจูกล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ไอเอ็มเอฟระดมเงินสมทบได้อีก 4.30 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มีเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนช่วยเหลือของยูโรโซนมีวงเงินราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่ามีเม็ดเงินทั้งสิ้นราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ในการรับมือวิกฤตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจูกล่าวเตือนว่าในระยะกลางถึงระยะยาว เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างมากในการลดภาระหนี้สิน และสภาพเศรษฐกิจที่มีหนี้สูงจะไม่เป็นผลดีต่อการบริโภค การลงทุนและการใช้จ่ายต่างๆ ดังนั้น เศรษฐกิจโลกจึงจะมีการขยายตัวที่ระดับต่ำอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้