สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุ ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน เม.ย. 55 อยู่ที่ระดับ 166 .2 หดตัว 13.84% จากเดือน มี.ค.55 แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.54% จากเดือนเม.ย. 54 ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 62.24%
นายอภิวัฒน์ อสมาภรณ์ รองผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า ถือเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย. 54 โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลด้านบวกต่อค่าดัชนี คือ รถยนต์ เบียร์ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ในบ้าน เป็นต้น
ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตและจำหน่ายปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเฉพาะรถกระบะ ซึ่งกลุ่มรถยนต์สามารถฟื้นตัวจากน้ำท่วมได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เบียร์ การผลิตเพิ่มขึ้น เพราะเข้าใกล้เทศกาลฟุตบอลยูโร ผู้ผลิตจึงเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการในเทศกาลดังกล่าว และอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ มียอดการผลิตที่ฟื้นตัวจากสภาพอากาศร้อน ความต้องการสินค้าจึงมีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 ยังคงมีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความผันผวนในราคาพลังงาน ทั้งน้ำมัน แอลพีจี และเอ็นจีวี ภาวะเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งถึงแม้ยุโรปจะไม่ใช่ตลาดส่งออกหลักของไทยแล้ว แต่การส่งออกทางตรงไปยุโรปติดลบ ส่วนการส่งออกทางอ้อม โดยเฉพาะในกลุ่มสิ่งทอ ที่ไทยส่งไปอาเซียนมากก็เริ่มที่จะส่งออกได้น้อยลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากยุโรปมีคำสั่งซื้อน้อยลง ส่วนตลาดสหรัฐอเมริกาก็ยังคงติดลบ จึงมีความน่าเป็นห่วงอยู่
“เมื่อจบไตรมาส 2 จะมีการทบทวนตัวเลขประมาณการณ์ใหม่อีกครั้ง แต่เชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นตามลำดับ ถึงแม้ไตรมาส 1 ค่าดัชนีจะติดลบ แต่ยังคงติดลบอยู่ในกรอบที่วางไว้ โดยทั้งปีคาดว่าค่าดัชนีจะเป็นบวกที่ 6-7% ส่วนจีดีพีอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 4.5-5.5%"นายอภิวัฒน์ กล่าว