ประเด็นที่ว่ารัฐบาลสเปนจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 1.9 หมื่นล้านยูโรแก่ธนาคารบังเกีย ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 และเป็นผู้ปล่อยเงินกู้จำนองรายใหญ่ที่สุด กลายเป็นประเด็นความสนใจของสาธารณชนและประเด็นถกเถียงในวงการสื่อ เนื่องจากทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลจะนำเงินมาจากไหน ในขณะที่ภาวะสินเชื่อในประเทศตึงตัวและบังเกียมีหนี้เสียจากภาคการเคหะจำนวนมหาศาล
นอกจากนี้ ภาวะฟองสบู่ภาคที่อยู่อาศัยของสเปนและการทรุดตัวลงของภาคเคหะเป็นปัจจัยสำคัญในวิกฤตการเงินสเปนที่อาจทำให้สเปนต้องรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศเหมือนกับไอร์แลนด์ โปรตุเกส และกรีซ โดยในช่วง 10 ปีจนถึงปี 2551 ราคาบ้านในสเปนพุ่งขึ้น 2 เท่า แต่ในขณะนี้ได้ลดลง 30% แต่นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาจะลดลงต่อไป ซึ่งในยุคที่เฟื่องฟูนั้น ภาคการเคหะสร้างงานให้ชาวสเปน 1 ใน 7 คน เมื่อเทียบกับ 1 ใน 22 ในสหรัฐ แต่ในตอนนี้บ้าน 2 ล้านหลังในสเปนยังไม่มีผู้ซื้อ และจะมีการประกาศขายบ้านในตลาดเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ผู้ขอเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย 20% อยู่ในภาวะย่ำแย่
นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า การเข้าอุ้มธนาคารบังเกียจะยิ่งเพิ่มหนี้ให้กับสเปน ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้น 50% ถ้ารัฐจำเป็นต้องเข้าช่วยเหลือภาคธนาคารมากขึ้น
นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปนต้องการให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซื้อตราสารหนี้สเปน แต่นั่นเป็นสิ่งที่ได้รับการคัดค้านจนถึงขณะนี้ โดยธนาคารกลางสเปนได้กู้ยืมเงินจากอีซีบี 3.85 แสนล้านยูโรแล้ว
สำหรับขณะนี้ประเด็นความวิตกอยู่ที่เศรษฐกิจที่อ่อนแอลงของสเปน ไม่ใช่การแห่ถอนเงินอย่างหนัก โดยอัตราว่างงานของสเปนนับว่าสูงสุดในยุโรปที่เกือบ 25% และอัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวอยู่สูงกว่า 40% ขณะที่เศรษฐกิจอ่อนตัวลง 0.3% ในไตรมาสแรก และนักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอลงในไตรมาสต่อๆไป ซึ่งจะทำให้การว่างงานยิ่งเพิ่มสูงขึ้น