นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวก่อนเปิดประชุมใหญ่ World Economic Forum on East Asia ในหัวข้อ"โมเดลแห่งเอเชียตะวันออกที่จะเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจโลก"ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดประเด็นการหารือที่ชัดเจน แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าเรื่องการขจัดอุปสรรคในการพัฒนาภูมิภาคเอเชียเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการพัฒนาความคิดของบุคคลากร
เนื่องจากภูมิภาคเอเชียมีอาชีพการทำงานที่ดีและมั่นคง แต่การกระจายรายได้และการศึกษายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ภูมิภาคเอเซียเติบโตแบบแตกต่าง แต่ไม่แตกแยกทางความคิด ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันขับเคลื่อน
นายกิตติรัตน์ กล่าวสนับสนุนการผลักดันขยายขนาดกองทุนพัฒนาการเงินเอเชียให้มีขนาดตามเป้าหมาย คือ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ ตามความริเริ่มความตกลงการประชุมอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการนำเงินทุนสำรองของแต่ละประเทศในภูมิภาคอาเซียน+3 มารวมกัน เพื่อให้การช่วยเหลือทางการเงินระหว่างกันกรณีที่สมาชิกประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากปัญหาดุลการชำระเงินหรือขาดสภาพคล่องในระยะสั้น
กองทุนดังกล่าวจะเป็นความช่วยเหลือที่เสริมเพิ่มเติมจากความช่วยเหลือทางการเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)โดยการขยายขนาดของกองทุนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลกให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอาเซียน+3 รวมทั้งลดการพึ่งพาเงินของ IMF ซึ่งเชื่อว่าวงเงินดังกล่าวจะเพียงพอที่จะใช้ช่วยเหลือประเทศสมาชิกได้เป็นอย่างดี