องค์การค้าโลกเรียกร้องแต่ละประเทศลดการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีที่เปรียบเหมือนคอลเลสเตอรอลที่จะอุดตันเส้นเลือดเศรษฐกิจโลก
นาย Pascal Lamy ผู้อำนวยการการค้าโลก (WTO) เปิดเผยว่า จากรายงาน G20 on Trade Report ที่ WTO ได้เปิดเผยฉบับล่าสุด พบว่าประเทศต่างๆ มีการใช้มาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยในรายงานระบุว่า การใช้มาตรการดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 3% ของการค้าโลก หรือ 4% ของการค้าในกลุ่ม G20 หรือคิดเป็นมูลค่าการค้าราว 5 แสนล้านเหรียญ
"แม้จะดูเป็นตัวเลขไม่มาก แต่เหมือนคอลเลสเตอรอลที่สะสมที่จะอุดตันเส้นเลือเศรษฐกิจโลก ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาญร้ายแรงแต่ศัทพย์ทางการแพทย์ต้องให้ตรวจสุขภาพเศรษฐกิจโดยเร็ว ยิ่งขณะนี้เศรษฐกิจโลกผันผวน ผมคิดว่าถ้าผมเป็นหมอ ถ้ามีอะไรก็จะต้องแจ้งให้คนไข้รู้แต่เนิ่นๆ" ผู้อำนวยการ WTO กล่าว
ขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆ ได้มีพันธะที่จะลดมาตรการด้านภาษีเหลือ 5% จากเฉลี่ย 10% ภายใน 5 ปี โดยต้องให้ผู้บริหารประเทศช่วยลดมาตรการด้านนี้ และเพิ่มความสะดวกการค้าชายแดนให้สะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เขาเห็นว่ากลุ่มการค้าเสรีอาเซียน(AFTA)เป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่รวมตัวกันได้อย่างมีคุณภาพและมีโมเมมตัมการค้าเช่นเดียวกับกลุ่มละตินอเมริกา และกลุ่มแอฟริกาตะวันออก โดย AFTA มีการปรับลดภาษีในประเทศสมาชิกและลดการกีดกันทางการค้าเป็นการจัดระเบียบเดียวกัน แต่อุปสรรคที่สำคัญคือการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษี และแต่ละประเทศมีการพัฒนาไม่เท่ากัน เช่น ลาวกับสิงคโปร์ ดังนั้นจึงสนับสนุนให้ลาวเข้าเป็นสมาชิก WTO เพื่อทุกประเทศในอาเซียนจะได้เป็นสมาชิก WTO เทียบเท่ากัน