กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ค. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย มาอยู่ที่ 383,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรงลง
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นจากระดับ 373,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 370,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 370,000 ราย
นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ก็เพิ่มขึ้น 3,750 ราย มาอยู่ที่ 374,500 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 36,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 พ.ค.สู่ระดับ 3.24 ล้านราย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ความเคลื่อนไหวที่เป็นบวกดังกล่าวเริ่มส่อแววหยุดชะงักในระยะหลังมานี้ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ดีดตัวขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขจ้างงานใหม่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง
เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ซึ่งตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ขณะที่อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ลดลงแตะที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 8.2% แต่ถึงกระนั้น อัตราว่างงานสหรัฐก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง
รัฐบาลสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ในวันพรุ่งนี้ เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.1%