นายเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย ประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า วิกฤตยูโรโซนและวิกฤตการเงินของโลกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของยุโรปแต่อย่างใด
นายฟาน รอมปุยกล่าวสุนทรพจน์ที่ชัทแธม เฮาส์ว่า แม้วิกฤตการเงินโลกและวิกฤตยูโรโซนจะอยู่ในภาวะย่ำแย่และวุ่นวาย ผู้นำยุโรปยังคงเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในประเด็นระดับโลกนี้ และได้ย้ำถึงการมีส่วนร่วมในการประชุมนาโต (NATO) ที่ชิคาโกเมื่อไม่นานมานี้ และการประชุมผู้นำกลุ่มจี-8 ที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย
“ความหวั่นวิตกที่ว่า นโยบายต่างประเทศของยุโรปจะตกเป็นเหยื่อของวิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้นนั้น ดูเหมือนจะเป็นการกล่าวที่เกินจริงในความเห็นของผม แต่วิกฤตดังกล่าวก็ทำให้เราอ่อนกำลังลง" นายฟาน รอมปุย กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “อำนาจของสหภาพยุโรป"
“นโยบายต่างประเทศเป็นเรื่องของการคาดหวังที่ไม่ตรงกัน เราไม่สามารถคาดหวังให้ยุโรปกลายเป็นมหาอำนาจใหม่ได้" นายฟาน รอมปุยกล่าวเพิ่มเติม
นายฟาน รอมปุย ประธานคนแรกของคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อปี 2552 และเพิ่งเริ่มการรับตำแหน่งนี้เป็นสมัยที่ 2 และสมัยสุดท้ายอีก 2 ปีครึ่งในสัปดาห์นี้ เรียกร้องให้ยุโรปมีบทบาทในระดับโลกและประสานความร่วมมือกันกับประเทศต่างๆมากขึ้น
นายฟาน รอมปุยกล่าวอีกว่า จำนวนประเทศมหาอำนาจเกิดใหม่ที่มีมากขึ้นนั้นช่าง “โดดเด่น" และชัดเจนตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา เห็นได้จากการก่อตั้งกลุ่มจี-20
“การเปลี่ยนแปลงเชิงลึก"ของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ยังไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างเต็มที่ นายฟาน รอมปุยกล่าว พร้อมเสริมว่า ตะวันตกได้ “สูญเสียการผูกขาดทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เรายึดครองมาโดยตลอด 2 ศตวรรษไปแล้ว นับเป็นช่วงขาลงที่ไม่ใช่ผลดี แต่หากมองในแง่มนุษยธรรมโดยรวมแล้ว นี่ก็ไม่นับว่าเป็นข่าวร้าย เพราะเป็นการช่วยให้หลายร้อยล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนได้"
เขากล่าวว่า การสูญเสียการผูกขาดไปไม่ได้หมายความว่า ยุโรปจะสูญเสียอำนาจไปด้วย เพราะ “ตะวันตกยังคงมีสินทรัพย์มากมาย" และบนเวทีโลกที่เนืองแน่นไปด้วยนานาประเทศ คงจะดีกว่าหากชาติต่างๆในยุโรปร่วมมือกัน
ยุโรปควรที่จะรักษาบทบาทในระดับโลกไว้ นายฟาน รอมปุยกล่าว “ในฐานะคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก เราไม่เพียงแต่เป็นเสาหลักแห่งความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเท่านั้น เรายังมีส่วนช่วยภูมิภาคนั้นด้วย นี่คือสาเหตุที่ยุโรปยังคงต้องมีบทบาทในระดับโลก"
นายฟาน รอมปุยกล่าวเพิ่มเติมว่า “ยุโรปต้องแสดงบทบาททางการเมือง เศรษฐกิจ ตลอดจนการทหารด้วย และในหลายกรณี ประเทศต่างๆในยุโรปจะแสดงศักยภาพได้ดีขึ้นด้วยการร่วมมือกัน แสดงความแข็งแกร่งของเราด้วยการรักษาตำแหน่งไว้ ร่วมแรงร่วมใจกัน แสดงบทบาทระดับโลกในฐานะชุมนุม และค่อย ๆ กลายเป็นทีมเดียวกันในที่สุด" สำนักข่าวซินหัวรายงาน