นักวิเคราะห์กล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐมีเวลาจนถึงสิ้นฤดูร้อนนี้ในการฟื้นเศรษฐกิจ ในขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ สู่ 8.2% ในเดือนพ.ค. จาก 8.1% ในเดือนเม.ย.
เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 69,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำกว่า 90,000-100,000 ตำแหน่งที่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า เป็นจำนวนที่จำเป็นในแต่ละเดือนเพื่อตามให้ทันกับการขยายตัวของประชากรวัยทำงาน
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปธน.โอบามามีเวลาจนถึงเดือนก.ย.ในการแสดงให้ผู้ลงคะแนนเสียงเห็นว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. มิฉะนั้น หลายคนจะมองว่า เขาไม่สามารถเพิ่มการจ้างงาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเขาในการเลือกตั้งที่การจ้างงานจะเป็นประเด็นสำคัญอันดับแรกของผู้คะแนนเสียง
นายดาร์เรล เอ็ม เวสต์ รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาด้านการกำกับดูแลของสถาบันบรูคกิงส์กล่าวว่า การว่างงานจำเป็นต้องลดลงต่ำกว่า 8% ปธน.โอบามาจึงจะสามารถกล่าวว่า สิ่งต่างๆมุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง และจีงจะได้รับความเชื่อถือว่าสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ และนั่นจำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 เดือนก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากผู้ลงคะแนนเสียงอาจจะไม่สนใจต่อข่าวดีใดๆในนาทีสุดท้าย
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขเมื่อวานนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อปธน.โอบามา แม้ว่ายังคงไม่ชัดเจนว่า จะเป็นสิ่งบ่งชี้หรือไม่ถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
"ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.อาจจะยังคงถูกถ่วงโดยประเด็นตามฤดูกาล อย่างที่เห็นในการลดลงของการก่อสร้าง, การใช้จ่ายด้านสันทนาการ และงานบริการ ดังนั้น ตัวเลขเหล่านี้ไม่ควรจะถูกมองเป็นสัญญาณการชะลอตัวลง" นายไฮดิ เชียร์ฮอลส์ นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันนโยบายเศรษฐกิจกล่าว
อันที่จริงแล้ว นักวิเคราะห์กล่าวว่า อาจจะยังมีโอกาสที่ปธน.โอบามาจะแสดงความคืบหน้าด้านเศรษฐกิจ แต่เวลากำลังจะหมดลง ซึ่งถ้ารายงานการจ้างงานที่ซบเซาเมื่อวานนี้เป็นเพียงเหตุบังเอิญ และตัวเลขดีดกลับขึ้นมาในเดือนหน้า ปธน.โอบามาก็อาจจะมีฐานเสียงแข็งแกร่งขึ้นในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.