ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่ปรับตัวทั้งแรงงานและพลังงาน ทั้งนี้ คงมุมมองอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 55 ไว้ที่ 3.5-4.0% แม้ว่าในไตรมาส 2 นี้อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงค่อนข้างมากซึ่งมีสาเหตุจากฐานราคาที่สูงในปีที่ผ่านมา
กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม 2555 โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.53%YOY (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) เร่งขึ้นเล็กน้อยจาก 2.47%YOY ในเดือนเมษายน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.95 %YOY ชะลอลงจาก 2.13%YOY ในเดือนที่ผ่านมา
SCB EIC เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.4% เทียบกับเดือนก่อน จากราคาอาหารสดที่เพิ่มสูงขึ้น ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนเมษายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น 3.4%MOM (เทียบกับเดือนที่ผ่านมา) ผักและผลไม้เพิ่มขึ้นถึง 4.7%MOM ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางฤดูกาลที่ราคาอาหารสดมักจะเพิ่มสูงขึ้นจากสภาพอากาศในฤดูร้อน
แรงกดดันจากราคาน้ำมันเริ่มชะลอลง ราคาน้ำมันดิบดูไบ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 101.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดือนมีนาคมที่อยู่ระดับ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของวิกฤติหนี้ในยุโรป ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ฟื้นตัวแข็งแกร่งตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า อีกทั้งเศรษฐกิจจีนก็กำลังเผชิญกับการชะลอตัว โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มลดลง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อได้บ้าง อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลจะกลับมาเพิ่มการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันอีกครั้งหลังจากที่ราคาน้ำมันเริ่มลดลง ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งภายในประเทศอาจไม่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบมากนัก
อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปียังมีแรงกดดันจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งต้นทุนของผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้นจะทยอยส่งผ่านมายังราคาสินค้ามากขึ้นในภาวะที่ความต้องการใช้จ่ายในประเทศขยายตัวดี นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่รอการปรับขึ้นราคาอีกหลายรายการ ตัวอย่างเช่น ไฟฟ้า แก๊ส LPG สำหรับรถยนต์ และสินค้าอื่นๆ ที่รัฐบาลขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้ชะลอการขึ้นราคาเป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งหากหมดระยะเวลาการตรึงราคาจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก
SCB EIC เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงไตรมาส 2 และคาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 3.0% จนถึงสิ้นปี 55 ความเสี่ยงที่อุปสงค์ในประเทศจะเติบโตร้อนแรงจนทำให้อัตราเงินเฟ้อเกินกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีน้อย ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังไม่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากระดับนี้