สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินของสเปน นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมฉุกเฉินของรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G-7 เมื่อวานนี้ด้วย
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.39% แตะที่ 1.2446 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2495 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับลง 0.03% แตะที่ 1.5376 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5380 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.55% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.760 เยน จากระดับ 78.330 เยน และพุ่งขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9645 ฟรังค์ จากระดับ 0.9608 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.17% แตะที่ 0.9743 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9726 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.01% แตะที่ 0.7563 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7564 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากนายคริสโตบอล มอนโตโร รมว.คลังสเปนเปิดเผยว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันแล้ว สเปนกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการระดมเงินทุนจากตลาดเงิน นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมฉุกเฉินของรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G-7 เมื่อวานนี้ ที่ประชุม G-7 เห็นชอบที่จะร่วมมือกันในการคลี่คลายสถานการณ์ที่สร้างความวิตกกังวลในตลาดการเงินเกี่ยวกับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นที่ว่ากรีซอาจจะออกจากกลุ่มยูโรโซน และไม่ได้มีมติอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป ส่วนการประชุมสุดยอด G-20 อย่างเป็นทางการในวันที่ 18-19 มิ.ย.ที่เมืองลอส คาบอส ประเทศเม็กซิโก
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 จากระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.จะอยู่ที่ 53.5 จุด โดยระดับที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว
รายงานของ ISM ระบุว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคบริการปรับขึ้นแตะ 55.5 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. และดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ/การผลิต ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 55.6 จาก 54.6 ในเดือนเม.ย.
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 1/2555 และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย.