วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานและซีอีโอของเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ ชี้โอกาสที่เศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวลงสู่ภาวะถดถอยนั้นมีน้อยมาก แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างเปราะบางก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บัฟเฟตต์กล่าวในงานที่จัดโดย Economic Club of Washington ว่า เศรษฐกิจจะไม่อ่อนตัวลงสู่ภาวะถดถอย ยกเว้นเสียแต่ว่า สถานการณ์ในยุโรปอยู่นอกเหนือการควบคุม และเกิดผลพวงต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
บัฟเฟตต์มองว่า วิกฤตยูโรโซนที่ยังยืดเยื้ออยู่นี้ ถือเป็นคำถามที่สำคัญที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับยกคำกล่าวของอดีตประธานาธิบดีอับราฮิม ลินคอนที่เคยกล่าวไว้ว่า บ้านที่แตกแยกนั้นไม่สามารถตั้งอยู่ได้
อย่างไรก็ดี บัฟเฟตต์ย้ำว่า สหรัฐจะต้องดูแลด้านการคลังให้เหมาะสม ด้วยการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษีและลดค่าใช้จ่าย ขณะที่ตัวเขาเองให้การสนับสนุนการปรับขึ้นภาษีเงินได้และภาษีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อรักษาสมดุลด้านงบประมาณของรัฐบาลกลาง
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจ่ายภาษีน้อยกว่าเลขาฯของเขา ขณะที่คณะทำงานของโอบามาได้เน้นย้ำถึงเรื่องความสำคัญของกฎของบัฟเฟตต์ที่มหาเศรษฐีควรจะช่วยกันรับภาระจากแรงกดดันด้านการคลังของทางรัฐบาลที่เพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลจากทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า ในปัจจุบันนี้ มหาเศรษฐีเกือบ 1 ใน 4 ของสหรัฐจ่ายภาษีต่ำกว่าผู้เสียภาษีในกลุ่มชนชั้นกลางที่มีจำนวนหลายล้านคน
สำหรับการใช้จ่ายนั้น รัฐบาลกลางสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน