หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ตามคาดเมื่อเย็นวานนี้ ตามเวลาไทย การแถลงข่าวของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีนับเป็นเหตุการณ์ที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาเพื่อประเมินทิศทางว่าอีซีบีจะส่งสัญญาณถึงการออกมาตรการใหม่ๆหรือไม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคที่กำลังถูกรุมเร้าด้วยวิกฤตหนี้ยูโรโซน
ในการแถลงข่าว นายดรากีกล่าวว่าการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเป็นการพิจารณาที่อิงกับการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจของเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายอีซีบี ซึ่งยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาคของยูโรโซนประจำเดือนมิ.ย.2555 คาดว่าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) รายปีอยู่ในช่วง -0.5-0.3% ในปี 2555 และสำหรับปี 2556 อยู่ในช่วง 0-2%
อย่างไรก็ตาม นายดรากีกล่าวว่า การขยายตัวในยูโรโซนยังคงอ่อนแอ ซึ่งตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงฉุดความเชื่อมั่นและบรรยากาศทางเศรษฐกิจโดยรวม โดยส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเผชิญความเสี่ยงขาลงมากขึ้น
สำหรับประเด็นมาตรการจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (LTRO) ซึ่งตลาดคาดหวังว่า อีซีบีจะดำเนินการอีกครั้งในระยะใกล้เพื่อช่วยบรรเทาแรงกดดันในภาคการธนาคารของยูโรโซนนั้น นายดรากีกล่าวว่าอีซีบีได้ใช้มาตรการ LTRO มา 2 ครั้งแล้ว ซึ่งได้ช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น วิกฤตสินเชื่อที่รุนแรง และ LTRO 2 ครั้งดังกล่าวมีวงเงินสูงมากและส่งผลที่ซับซ้อน “ดังนั้น เราจะพิจารณาแนวทางดำเนินการ และหลังจากนั้นจึงจะมีการตัดสินใจ"
นายดรากีได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ว่าสนธิสัญญา ESM ห้ามไม่ให้ ESM เพิ่มทุนแก่ธนาคารต่างๆโดยตรง แต่จะเป็นการดีกว่าหาก ESM จะสามารถดำเนินการเช่นนั้นได้
แม้ว่าอีซีบีไม่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือประกาศมาตรการใหม่ๆออกมาในการประชุมเมื่อวานนี้ตามที่นักลงทุนจำนวนมากคาดหวัง แต่ประธานอีซีบีก็ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะดำเนินการเพิ่มเติมเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งได้ช่วยจุดประกายความหวังแก่ตลาดได้บ้าง