บรรดาผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประกอบด้วยนายเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก และนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า พร้อมจะสนับสนุนให้เฟดดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นการขยายตัว หากเศรษฐกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่
นางเยลเลนแสดงทัศนะว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอาจทำให้เฟดต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่อยู่ในภาวะเปราะบาง โดยระบุว่าความอ่อนแอในตลาดที่อยู่อาศัย การคุมเข้มนโยบายการคลังของสหรัฐ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ กำลังบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการฟื้นตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ
รองประธานเฟดกล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงต่างๆแล้ว การสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับผลกระทบเชิงลบที่อาจจะฉุดรั้งเศรษฐกิจนั้นถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนไหวต่อผลกระทบต่างๆ เฟดจึงอาจต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปสักระยะหนึ่ง
นายวิลเลียมกล่าวว่า เฟดต้องพร้อมใช้มาตรการมากขึ้น หากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลง เช่น อัตราว่างงานที่ไม่ได้ปรับตัวลงในระดับที่สอดคล้องกับเกณฑ์ของเฟด และหากแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะกลางปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% เฟดจะต้องดำเนินการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
ประธานเฟดซาน ฟรานซิสโกระบุว่า เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพประการหนึ่งก็คือการซื้อพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น โดยเสริมว่าการซื้อพันธบัตรที่ผ่านมาได้ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลง ช่วยให้ภาวะทางการเงินปรับตัวดีขึ้นและหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทางด้านนายล็อคฮาร์ทกล่าวว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้รับผลกระทบจากหลากปัจจัยลบ เฟดอาจจะต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
เขากล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญอยู่นั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะต้องมีความพร้อมที่จะรับมือกับภาวะไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน หากมีความจำเป็น