เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการร่วมทางเศรษฐกิจแห่งสภาคองเกรสว่า วิกฤตหนี้ยุโปรที่ทวีความรุนแรงขึ้นนั้น ได้ส่งให้ระบบเศรษฐกิจและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก
เบอร์นันเก้กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวปานกลางตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2554 จนถึงช่วงต้นปีนี้ พร้อมกับกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขยายตัวปานกลางต่อไปอีกในหลายไตรมาสข้างหน้า เพราะได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะ และเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์ในหลายประเทศของยูโรโซน ซึ่งปัญหาเหลานี้ยังคงสร้างความตึงเครียดให้กับตลาดการเงินทั่วโลก
"วิกฤตหนี้ยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วยการฉุดรั้งอุตสาหกรรมส่งออกของเรา อีกทั้งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค และยังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดการเงินและสถาบันต่างๆในสหรัฐด้วย" เบอรนันเก้กล่าว
ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการต่อไปเพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หากเศรษฐกิจอ่อนแอลง
"เฟดยังคงเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อปกป้องระบบการเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐ ในกรณีที่แรงตึงเครียดด้านการเงินทวีความรุนแรงมากขึ้น" เบอร์นันเก้กล่าว