นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และผู้ส่งออก เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกสินค้าไทยในช่วง 7 เดือนที่เหลือของปีนี้ รวมถึงรับฟังปัญหา อุปสรรคและสิ่งที่ผู้ส่งออกต้องการให้ช่วยเหลือว่า ได้เข้ามาช่วยดูแลแก้ปัญหาส่งออก เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นห่วง หลังจากมูลค่าการส่งออกในช่วง 4 เดือนแรก ติดลบถึง 3.8% และต้องการให้กลับมาเป็นบวกโดยเร็วที่สุด
"ปัญหาที่ภาคเอกชนเสนอจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 9 ชุด เพื่อจัดการกับกลุ่มปัญหาที่มีการจัดเป็นหมวดหมู่ โดยจะมีรัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องมานั่งเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาร่วมกัน เชื่อว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายแน่นอน เพราะตอนนี้มีผู้ประกอบการหลายกลุ่มยืนยันว่าการส่งออกเติบโตค่อนข้างดี" นายโอฬารกล่าว
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับผู้ส่งออกเพื่อแก้ปัญหาการส่งออกสินค้าไทยว่า ที่ประชุมได้แบ่งกลุ่มปัญหาเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มปัญหาที่แก้ไขได้ทันที เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ เช่น การออกใบอนุญาตการส่งออกให้เร็วขึ้น การจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น การหาตลาดใหม่
ส่วนกลุ่มที่ต้องปรับปรุง แก้ไขกฎระเบียบ ต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ เช่น การขอให้เปิดท่าเรือตลอด 24 ชั่วโมง การลดภาษี และกลุ่มที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข เช่น การจัดตั้งศูนย์ทดสอบเครื่องสำอาง เป็นต้น ซึ่งเมื่อสรุปข้อมูลได้แล้วจะทำรายงานเสนอต่อนายกรัฐมนตรี วันที่ 11 มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกในภาพรวมปี 55 ไว้ที่ 15% ซึ่งผู้ส่งออกหลายอุตสาหกรรมก็ยืนยันว่าจะผลักดันให้ได้ตามเป้าหมายเช่นกัน
ขณะที่นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลแยกปัญหาการเมืองออกจากการค้าให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีนี้จะทำให้การส่งออกขยายตัวได้ 15% คงทำได้ยาก เพราะแต่ละประเทศกำลังดิ้นรนแข่งขันส่งออกเช่นกัน