ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการลำเลียง การเก็บกอง การขนถ่าย การขนส่งหรือการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีแต่ละรายไว้ เพื่อควบคุม ตรวจสอบ หรือกำกับให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลและคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
"การที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการลำเลียง การเก็บกอง การขนถ่าย การขนส่งหรือการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1(องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย) ในตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีแต่ละรายไว้ เพื่อควบคุม ตรวจสอบ หรือกำกับให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลและคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วยในผล จึงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้น" คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ระบุ
โดยคดีนี้นายทองนาค เสวกจินดา ขาวบ้านในตำบลท่าทรายกับพวกรวม 20 คน ได้ยื่นฟ้องว่า องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2, สำนักงานขนส่งทางน้ำจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 และบริษัท เทคนิคทีม(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ร้องสอด ดำเนินการเกี่ยวกับการประกอบกิจการถ่านหินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ควบคุมการประกอบกิจการถ่านหินดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้หยุดการเก็บกอง ขนถ่าย และขนส่งถ่านหินในเขตพื้นที่ตำบลท่าทรายไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี