จีน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลก กำลังตั้งความหวังเกี่ยวกับการขยายตัวของนำเข้าเพื่อรักษาดุลการค้าและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ ในขณะที่ตลาดต่างประเทศกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอที่ยืดเยื้อยาวนาน
นายเฉิน เต๋อหมิง รมว.พาณิชย์จีนกล่าวในวันนี้ว่า แม้ตัวเลขการค้าฟื้นตัวขึ้นบ้างในเดือนพ.ค. แต่สภาวะการค้าระหว่างประเทศของจีนยังคงมืดมน และกล่าวว่าจีนจะให้ความสำคัญมากขึ้นกับการขยายตัวของการนำเข้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
จีนอาจรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ที่ระดับ 10% ในปีนี้ "หากเราโชคดี" นายเฉินกล่าวนอกรอบการประชุมระดับประเทศว่าด้วยการนำเข้า
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดทั่วโลก การพัฒนาทางการค้าระหว่างประเทศของจีนได้เข้าสู่ระยะใหม่ที่ทั้งการส่งออกและนำเข้าควรได้รับการผลักดันอย่างเท่าเทียมกัน
การตัดสินใจขยายการนำเข้าจะถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากการขยายตัวของการนำเข้าจะช่วยยกระดับความสมดุลทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการปรับโครงสร้างของประเทศ เพิ่มการบริโภค และทำลายอุปสรรคที่มีต่อการพัฒนาของจีน
รมว.พาณิชย์จีนกล่าวว่า รัฐบาลจะอำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าด้วยการใช้นโยบายอัตราภาษีนำเข้าในอัตราพิเศษ เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐบาลระดับท้องถิ่นจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์นโยบายที่เอื้อประโยชน์มากขึ้นเพื่อส่งเสริมการนำเข้า โดยจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการนำเข้าและจะมีการสนับสนุนด้านภาษี การเงิน และการคลังเพิ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้าของจีน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนแสดงให้เห็นว่า มูลค่าการนำเข้าของจีนพุ่งขึ้นแตะ 1.74 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555 จาก 2.953 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2545
ขณะที่สำนักศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 3.4358 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งดีดขึ้นจากอัตราการขยายตัวที่ 2.7% ในเดือนเม.ย. โดยการนำเข้าปรับตัวขึ้น 12.7% สู่ระดับ 1.6244 แสนล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน