สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) เนื่องจากความคาดหวังเกี่ยวกับผลเชิงบวกจากการที่กลุ่มยุโรโซนให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารสเปนนั้นได้เริ่มจางลง โดยนักลงทุนมองว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะไม่มากพอที่จะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้
สกุลเงินยูโรร่วงลง 0.24% แตะที่ 1.2486 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2516 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.12% แตะที่ 1.5490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5472 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง 0.05% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.420 เยน จากระดับ 79.460 เยน และดีดตัวขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9618 ฟรังค์ จากระดับ 0.9594 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.38% แตะที่ 0.9873 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9911 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนแรงลง 0.06% แตะที่ 0.7692 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7697 ดอลลาร์
สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากที่นักลงทุนมองว่ามาตรการของยูโรโซนให้ความช่วยเหลือทางการเงินสูงสุด 1 แสนล้านยูโรแก่ภาคธนาคารสเปนที่กำลังประสบปัญหานั้น อาจจะไม่สามารถควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อระยะยาวของสเปนลง 3 ขั้น สู่ระดับ BBB จากเดิมที่ A อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวภาวะอ่อนแอในภาคธนาคารของสเปน
นอกจากนี้ นักลงทุนบางกลุ่มยังคงวิตกกังวลว่าระบบการเงินของอิตาลีอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับสเปน และกังวลว่าผลการเลือกตั้งของกรีซอาจจะทำให้แผนการให้ความช่วยเหลือกรีซตกอยู่ในความไม่แน่นอน