นายเฉิน เต๋อหมิง รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีนกล่าวในการให้สัมภาษณ์นอกรอบในระหว่างการประชุมเรื่องการนำเข้าของประเทศว่า เนื่องจากตลาดต่างประเทศยังคงอ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง จีนซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้หันไปฝากความหวังไว้กับการขยายตัวของการนำเข้าเพื่อรักษาดุลการค้าและการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
นายเฉินกล่าวว่า ถึงแม้ว่าตัวเลขการค้าจะฟื้นตัวขึ้นในเดือนพฤษภาคม แต่ภาวะการค้ากับต่างประเทศของจีนก็ยังคงไม่สดใสและจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการนำเข้าเพิ่มขึ้นในปัจจุบันและอนาคต
นายเฉินคาดว่า จีนอาจจะรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ระดับ 10% ได้
-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดอนุมัติเงินกู้ใหม่ของจีนได้ดีดกลับมาเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ภายหลังความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการผ่อนคลายการควบคุมสินเชื่อเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง
รายงานของธนาคารกลางระบุว่า ยอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ในรูปสกุลหยวนเพิ่มขึ้นแตะ 7.932 แสนล้านหยวน (1.259 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนพฤษภาคม และเพิ่มขึ้น 2.416 แสนล้านดอลลาร์จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าอาจอยู่ที่ประมาณ 8 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากรัฐบาลจีนให้คำมั่นที่จะปรับนโยบายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อมานานกว่า 2 ปี ในขณะที่อัตราการขยายตัวของจีดีพีลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 8.1% ในไตรมาสแรกปีนี้
-- กระทรวงการคลังจีนระบุว่า จีนมีรายได้ด้านการคลังเพิ่มขึ้น 12.7% ในช่วง 5 เดือนของปีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับประมาณ 5.3 ล้านล้านหยวน (8.413 แสนล้านดอลลาร์)
แต่อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากการขยายตัว 19.3% ในระหว่างเดือนม.ค.-พ.ค.ปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น โดยกระทรวงระบุว่าสาเหตุของการชะลอตัวดังกล่าวเนื่องมาจากเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลง ภาคธุรกิจมีกำไรลดลง และ การปรับลดอัตราภาษีซึ่งส่งผลให้จัดเก็บภาษีได้น้อยลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน