นายหลี่ เจียเซียง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีน (ซีเอเอซี) เปิดเผยว่า จีนจะสร้างท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นและจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เพื่อรองรับเที่ยวบินในประเทศที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2563
จีนจะเพิ่มเที่ยวบินเป็น 700 ล้านเที่ยวในปี 2563 เนื่องจากอุตสาหกรรมการบินพลเรือนจะสามารถรักษาแรงกระตุ้นการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งไว้ได้ในช่วง 10-20 ปีข้างหน้า นายหลี่กล่าว
ภายในปี 2563 จีนจะมีท่าอากาศยานเพื่อใช้ในการบินพลเรือนมากกว่า 240 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 180 แห่งในปี 2554 ขณะที่ 100 แห่งจะมีการปรับปรุงหรือมีการต่อขยายในช่วงปี 2554-2558 นายหลี่แถลงในการประชุมประจำปีของสมาคมการคมนาคมทางอากาศระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ในปี 2558 ท่าอากาศยานเพื่อการบินพลเรือนจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 230 แห่ง โดยคาดว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารแตะ 450 ล้านคน
นายหลี่ยังคาดว่า จำนวนเครื่องบินโดยสารของประเทศจะพุ่งแตะ 2,700 ลำ ภายในปี 2558 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1,764 ลำในปี 2553
อุตสาหกรรมการบินพลเรือนของจีนตกต่ำลงในด้านโครงสร้างพื้นฐานและประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ท่าอากาศยานหลักต่างๆยังเปิดให้บริการจนเต็มอัตรา
ขณะเดียวกัน สายการบินต่างๆของจีนจะต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวของตลาดต่างประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปที่รุนแรงขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจโลก นายหวัง ฉางชุน ประธานแอร์ ไชน่า ซึ่งเป็นสายการบินชั้นนำของประเทศกล่าว
ตัวเลขจากซีเอเอซีบ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมการบินพลเรือนของจีนมีรายได้ 5.001 แสนล้านหยวน (7.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหัฐ) ในปี 2554 ซึ่งเพิ่มขึ้น 21.2% จากปี 2553
อย่างไรก็ตาม ผลกำไรในปี 2554 ร่วงลง 13.9% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 3.63 หมื่นล้านหยวน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารชะลอตัวประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงเครื่องบินสูงขึ้น