สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวลดลง 1.63 ดอลลาร์ แตะที่ 81.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.31 น.ตามเวลาในลอนดอนวันนี้ หลังจากที่นายอาลี อัล-ไนมี รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบียระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจำเป็นต้องเพิ่มโควต้าการผลิต ในขณะที่สหรัฐได้ยกเว้นการคว่ำบาตรสำหรับบางประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน ซึ่งจะลดความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาด้านปริมาณน้ำมัน
นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า สหรัฐจะทำการยกเว้นรายชื่อ 7 ประเทศ ออกจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน หลังประเทศเหล่านี้ลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านลงเป็นจำนวนมาก โดยประเทศดังกล่าวประกอบด้วยอินเดีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ ศรีลังกา ตุรกีและใต้หวัน นางคลินตันกล่าวต่ออีกว่า มติยกเลิกรายชื่อมีขึ้นหลังประเทศเหล่านี้ได้ลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากประเทศเศรษฐกิจทั้ง 7 แล้ว ยังมีอีก 11 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่นและบางประเทศในยุโรป เข้าอยู่ในรายชื่อประเทศที่ได้รับการยกเว้นเมื่อเดือนมีนาคม
ทางด้านนายอัล-ไนมีได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโควต้าการผลิต ก่อนที่กลุ่มโอเปค จะจัดประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยในขณะนี้ โอเปคผลิตน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 40% ของผลผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.2%