ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรดีดขึ้นเทียบดอลล์ ก่อนการเลือกตั้งกรีซ

สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาถือครองสกุลเงินยูโรก่อนที่การเลือกตั้งของกรีซจะเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์นี้

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.22% แตะที่ 1.2503 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2475 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.64% แตะที่ 1.5576 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5477 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.480 เยน จากระดับ 79.400 เยน และอ่อนค่าลง 0.22% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9605 ฟรังค์ จากระดับ 0.9626 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.88% แตะที่ 0.9949 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9862 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.01% แตะที่ 0.7765 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7687 ดอลลาร์สหรัฐ

แรงซื้อเก็งกำไรช่วยหนุนสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้น แต่ยูโรปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารสเปนอีก 18 แห่งเมื่อวานนี้ โดยธนาคารที่ถูกปรับลดเครดิตในครั้งนี้ ได้รวมถึง บังเกีย ไคซาแบงก์ และบังโก ปอปูลาร์ เอสปันญอล

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลกลางสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณราว 1.246 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. หลังจากที่มียอดเกินดุลในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก เน้นย้ำให้เฟดดำเนินมาตรการเชิงรุกด้านนโนบายการเงินมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้เฟดระบุอย่างชัดเจนว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะต่ำกว่า 7% หรือหากเงินเฟ้อสูงกว่า 3% จากเป้าที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. และข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.