(เพิ่มเติม) กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% มองศก.โลกเสี่ยงเพิ่มขึ้นอาจกระทบถึงไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 13, 2012 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 13 มิ.ย.55 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.00% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่มองว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงชะลอตัวมากกว่าที่เคยคาดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้ ดังนั้นพร้อมปรับนโยบายการเงินให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ว่าผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะเลขานุการ กนง. กล่าวว่า กนง.มีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้มีความเสี่ยงด้านการขยายตัวมากกว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยปัจจัยเสี่ยงหลักคือ เศรษฐกิจโลก ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูงอันเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป

"กนง.จึงเห็นควรดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนต่อไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงและรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.0% ต่อปี โดยจะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับนโยบายการเงินตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง"นายไพบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของกรีซในกลุ่มประเทศยูโรและปัญหาภาคสถาบันการเงินในสเปน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโดยรวมมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่คาดไว้เดิม และอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งเศรษฐกิจเอเชียที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีน แต่อุปสงค์ภายในของประเทศในเอเชียที่ยังขยายตัวได้ดีและความสามารถใช้นโยบายการเงินการคลังเพิ่มเติมหากจำเป็น จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกได้ระดับหนึ่ง

ส่วนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีเกินคาดในไตรมาสแรกของปีนี้ และมีสัญญาณว่าจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย สินเชื่อภาคเอกชนที่ขยายตัวสูง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาคการส่งออกมีโอกาสที่จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจชะลอลงหากปัญหาในกลุ่มประเทศยูโรทวีความรุนแรงขึ้น

แรงกดดันเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตแผ่วลงตามราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง แต่เศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัวได้ดีทำให้การส่งผ่านของต้นทุนไปยังราคาสินค้าและบริการมีอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่การปรับค่าแรงที่ผ่านมาและการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในอนาคต ทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยรวมแล้วแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงมีอยู่แต่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ