นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ทางกรมฯ ได้ขอให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศหรือทูตพาณิชย์ เชิญนักธุรกิจจากต่างประเทศมาร่วมงานสหกรุ๊ปแฟร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย. — 1 ก.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะมีนักธุรกิจจากต่างประเทศมาร่วมงานเช่นเคย ซึ่งประเทศในอาเซียนจะมาร่วมงานมากกว่าประเทศอื่นเนื่องจากอยู่ไม่ไกล นอกจากจะช่วยส่งเสริมการส่งออกในแง่ของรายได้แล้ว ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ส่งออกของไทยที่มีความแข็งแกร่ง มีคุณภาพสูง และสามารถผลิตได้หลากหลายด้วย
“ปัจจุบัน สินค้าอุปโภคบริโภคใน CLM (กัมพูชา ลาว พม่า) เป็นสินค้าไทย 60-70% โดยเฉพาะพม่าซึ่งชาวพม่าเข้ามาทำงานในไทยมากจึงคุ้นเคยกับสินค้าไทย และพม่าจะเริ่มเปิดประเทศขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการรวมตลาดเออีซี อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยต้องเร่งสร้างความแข็งแกร่งด้วยแบรนด์ของไทยเอง มิฉะนั้นจะเป็นการปล่อยโอกาสให้ประเทศจีนเข้าไปทำตลาดแทน” นางนันทวัลย์ กล่าว
เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 3 ปีที่ 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม จะรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ คือ การเป็นตลาดเดียวและฐานการผลิตร่วม การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค และการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก ซึ่งตอนนี้ทั้ง 10 ชาติต้องเร่งพัฒนาเพื่อบรรลุผลเป้าหมายดังกล่าวให้มากที่สุด
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกที่ประเทศไทยส่งไปอาเซียนในปี 2544 ซึ่งมีเพียง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 54,000 เหรียญสหรัฐในปี 2554 ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในเวลาเพียง 10 ปี และมั่นใจว่าปี 2558 อาเซียนจะเติบโตกว่านี้อีกมาก ประเทศไทยและผู้ประกอบการไทยจะได้รับอานิสงส์จากการเข้าไปทำในตลาดนี้แน่นอน