นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวภายหลังการหารือระหว่างทีมเศรษฐกิจกับนายกรัฐมนตรีว่า ธปท.พร้อมเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)นัดพิเศษหากปัญหาวิกฤติหนี้สินในกลุ่มยุโรปส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง เพื่อปรับปรุงนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ขณะที่คณะกรรมการ ธปท.จะประชุมนัดพิเศษในชวง 16.00 น.วันนี้เพื่อหารือเรื่องที่ค้างรอการตัดสินใจของประธานคณะกรรมการคนใหม่
ในการหารือกับนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง และประธานคณะกรรมการ ธปท.ในช่วงเช้าวันนี้ หัวข้อใหญ่คือการประเมินสถานการณ์วิกฤติหนี้สินของยุโรป โอกาสที่ไทยจะถูกผลกระทบ และการเตรียมความพร้อมในด้านเครื่องมือดูแลเศรษฐกิจ โดยในส่วนของ ธปท.รายงานว่ามีการติดตามผลกระทบทั้ง 3 แนวทาง คือ ด้านการค้าขายระหว่างประเทศผ่านการส่งออก , ด้านระบบสถาบันการเงิน รวมทั้ง ด้านตลาดการเงิน เงินทุนเคลื่อนย้าย อัตราแลกเปลี่ยน และ สภาพคล่อง เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้ทันเวลา
"หากมีเรื่องที่ต้องทำเกี่ยวกับนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย กนง.ก็พร้อมจะมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และมีกฎเกณฑ์อื่น ๆ ที่จะมาดูแลกำกับสถาบันการเงิน...แบงก์ชาติพร้อมนัดประชุม กนง.นัดพิเศษ หากกระทบรุนแรงเศรษฐกิจไทย"นายประสาร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของระบบสถาบันการเงินและตลาดเงินนั้น ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว และมีเครื่องมือพร้อมที่จะนำมาใช้หากมีผลกระทบมาถึงไทย แต่ตอนนี้ไม่ได้ปรากฎผลกระทบชัดเจนรุนแรง พร้อมทั้งติดตามว่ามีสถาบันการเงินของไทยไปกู้ยืมสินเชื่อของสถาบันการเงินยุโรปหรือไม่ ปริมาณเทรดไฟแนนซ์ระหว่างกันมีมากน้อยแค่ไหน แต่โดยรวมเชื่อว่ากระทบไม่มาก โดยสินเชื่อด้านส่งออกนำเข้า ขณะนี้มีสินเชื่อการค้าทั้งขาเข้าและขาออกไปยังทั่วโลกข้างละ 3 หมื่นล้านเหรียญไม่ใช่เพียงยุโรป ถือว่าไม่มาก
ส่วนสถาบันการเงินยุโรปในไทยปล่อยสินเชื่อในประเทศ 4.7 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่ออินเตอร์แบงก์และการซื้อคืนพันธบัตร ซึ่งเมื่อเทียบกับการขยายตัวของสินเชื่อทั้งหมดถือว่าไม่มาก ขณะที่ตลาดเงินไทยหลังจาก 6 พ.ค.ผลเลือกตั้งของกรีซออกมาก้ำกึ่งทำให้คนเกิดความกังวล จากนั้นจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าไปแล้ว 2% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ แต่เทียบช่วงวิกฤติเลห์แมนบาร์เธอร์ เงินบาทอ่อนค่าไปถึง 10% และผลกระทบตลาสดหุ้น ต่างชาติขายหุ้นในไทยน้อยกว่าเมื่อเทียบกับในอดีต
ปัจจุบัน ต่างชาติมีธุรกรรมสวอปในไทยประมาณ 7 พันล้านเหรียญ หากไหลออกจากไทยในคราวเดียว ธปท.ก็พร้อมจะเข้าไปช่วย เพราะปริมาณดังกล่าวน้อยมากและดำเนินการได้ง่ายมาก รวมทั้ง ธปท.ดูแลสภาพคล่องเงินบาทโดยการดูดซับสภาพคล่องด้วยตราสารอายุ 1 วัน ที่มีวงเงินอยู่ปรมาณ 6 แสนล้านบาท
"แบงก์ชาติเตรียมความพร้อมอยู่บนพื้นฐานที่รอบคอบในการบริหารทุนสำรองมีการกระจายหลายสกุล นอกเหนือจาก 4 สกุลใหญ่ คือ ดอลลาร์ ยูโร เยน และปอนด์ฯ ก็มีการถือเงินสกุลอื่นและทองคำด้วย ถ้าเงินบาทตอนนี้เปรียบกับกับชาวโลก ค่อนข้างมีเสถียรภาพ เพราะฐานะทุนสำรองของไทยเข้มแข็ง"นายประสาร กล่าว
นายประสาร ยอมรับว่า ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือผลกระทบด้านการค้าของไทย จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งจะทำให้ปีนี้การส่งออกเติบโตต่ำกว่าหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาที่เติบโตสูงเป็น 2 หลัก แต่ปีนี้อาจจะเติบโตหลักเดียว หรือประมาณ 8% แต่สินค้าส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค จึงเชื่อว่าไม่น่าจะชะลอตัวลงมา
สำหรับประเด็นที่ได้หารือกับนายวีรพงษ์ รางมางกูร ประธานคณะกรรมการ ธปท.คนใหม่เมื่อต้นสัปดาห์นั้น เบื้องต้นเป็นการหารือถึงการประชุมคณะกรรมการในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่างเว้นไปเพื่อรอการแต่งตั้งประธานคนใหม่ จึงมีหลายเรื่องที่ธปท.ค้างไว้รอการอนุมัติ จึงเห็นพ้องกันว่าควรจะมีการประชุมคณะกรรมการ ธปท.นัดพิเศษเพื่อหารือเรื่องที่ค้างอยู่ ดังนั้น คณะกรรมการ ธปท.ก็จะมีการประชุมนัดพิเศษในเวลา 16.00 น.วันนี้