NIDA มองวิกฤติหนี้ยุโรปไม่กระทบไทยมากแนะจับตาเฟดหากออก QE3ส่งผลบาทแข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 19, 2012 14:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (MPA) คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า วิกฤติหนี้ยุโรปครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก เพราะปัญหาไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งวิกฤติการเงินของสหรัฐฯ เมื่อปี 2008 เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจยุโรปมีขนาดเล็กกว่าประเทศสหรัฐฯ และมูลค่าการค้าระหว่างไทยและยุโรปก็ไม่ได้มากนัก ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็มีการกระจายการค้าการลงทุนไปในหลายประเทศ ทั้งจีนและอาเซียนที่ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี

ดังนั้น นักลงทุนและเอกชนไม่ควรตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ครั้งนี้มากนัก เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความแข็งแกร่ง อีกทั้งภาครัฐยังมีเครื่องมือด้านการเงินการคลังที่มีความพร้อมพยุงเศรษฐกิจเพื่อต่อสู้ปัญหาวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในกรณีเลวร้ายสุด หากไม่สามารถแก้ปัญหาจนเกิดวิกฤติหนี้ทั่วยุโรปนั้น เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับไทยมากนัก เนื่องจากมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทยและยุโรปมีเพียง 10% ของมูลค่าการค้าการลงทุนทั้งหมด ซึ่งถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทย-จีนที่มีมูลค่ากว่า 19% หรือไทยกับประเทศในอาซียนที่มีมูลค่า 22% อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางอ้อมที่จะเกิดขึ้นนั้น จะเป็นเพียงระยะสั้นๆ จากปัจจัยการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้ามาลงทุนในตลาดเงินตลาดทุนในไทยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนบ้าง

แต่สิ่งที่น่าจับตามองขณะนี้คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ว่าจะออกมาตรการเพื่อเข้ามาพยุงเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปอย่างไรบ้าง หากเฟดดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบที่ 3 (QE3) โดยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับเศรษฐกิจนั้น จะส่งผลกระทบมีเม็ดเงินเข้ามาไหลเข้ามาสู่ตลาดเอเชียและไทยมากขึ้น และทำให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการส่งออกของไทยได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ