นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จำเป็นที่จะต้องเก็บเครื่องมือทางการเงิน เพื่อนำไปใช้ป้องกันผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจยูโรปที่อาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและกระทบต่อไทย
ประเด็นที่ ธปท.กังวลมากที่สุดขณะนี้คือสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินขณะนี้ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และ กนง.ก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยการคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% ทำให้ขณะนี้ กนง.พื้นที่ทางนโยบายการเงินหรือการลดดอกเบี้ยรองรับสถานการณ์ที่ไปในทางเลวร้ายได้ แต่หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ 3% ก็ถือเป็นระดับที่ผ่อนปรนสนับสนุน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้
"ตอนนี้ถือว่าเรามี policy space อยู่ ดังนั้นเราจึงต้องถนอมกระสุนไว้ใช้ในยามที่จำเป็น ไม่ทำอะไรที่เสียกระสุนไปเปล่าๆ เพราะสิ่งที่กังวลมากที่สุดขณะนี้คือสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย"นายทรงธรรม กล่าว
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงขยายตัวได้ดี ปัจจัยทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนไปกว่าที่คาดไว้ทั้งทางด้านปัจจัยสนับสนุนและปัจจัยเสี่ยง แต่การปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (GDP) เป็น 6% ไม่ถือว่ามีนัยสำคัญ ขณะที่การขยายตัวส่งออกก็จะขยายตัวชะลอลงส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด 13 มิ.ย.ปรับคาดการเติบโตในปีนี้จาก 9.3% เหลือ 8%