ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือ G-20 ระบุว่า กลุ่มประเทศยูโรโซนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อรับประกันเสถียรภาพของเงินสกุลยูโร ท่ามกลางวิกฤตหนี้สาธารณะและวิกฤตภาคธนาคารที่ย่ำแย่ลง
แถลงการณ์ของผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 ภายหลังการประชุมสุดยอดที่เมืองลอส คาบอส ของเม็กซิโกระบุว่า "ประเทศยูโรโซนที่อยู่ในกลุ่ม G-20 จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาความเป็นเอกภาพและเสถียรภาพของยูโรโซน ตลอดทั้งส่งเสริมบทบาทของตลาดการเงินและรับฟังความคิดเห็นระหว่างรัฐบาลและภาคธนาคาร"
ทั้งนี้ G-20 ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมและประเทศกำลังพัฒนานั้น ได้แสดงความเห็นสนับสนุนการดำเนินการของยุโรปในการรวมโครงสร้างด้านระบบการเงินเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งการรวมศูนย์การตรวจสอบภาคธนาคาร การแก้ไขปัญหาและการระดมทุน และการรับประกันเงินฝาก
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจี-20 ยังเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซให้ความร่วมมือกับประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ายูโรโซนได้ดำเนินการปฏิรูปเพื่อความยั่งยืนของยูโรโซน
ในขณะเดียวกัน แถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มประเทศ G-20 จะเดินหน้าในเรื่องการกำหนดให้การขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน และ สมดุล เป็นวาระสำคัญอันดับแรก ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างตำแหน่งงานและปรับปรุงสวัสดิการให้กับประชาชนในทั่วโลก
ในด้านตลาดการเงิน กลุ่ม G-20 รับประกันว่า ภารกิจของ G-20 กำลังเร่งเดินหน้าสู่ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวและมีความยืดหยุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน พร้อมระบุว่า กลุ่ม G-20 จะยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด
ส่วนด้านการค้าระหว่างประเทศ ผู้นำ G-20 ประกาศว่า จะหยิบยกประเด็นความวิตกกังวลในเรื่องจุดยืนด้านการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นในทั่วโลกมาพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งเป็นการรับประกันอีกรอบต่อคำมั่นในเรื่องการยกเลิกมาตการกีดกันทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน