นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออก ตั้งเป้าหมายการส่งออกไปกาตาร์ขยายตัว 7% โดยมีสินค้าลู่ทางขยายตัว ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เครื่องประดับอัญมณี อาหารทะเลแปรรูป และเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งจะจัดงานสินค้าวัสดุก่อสร้างและการสนับสนุนอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยไปลงทุนในกาตาร์”นายภูมิ กล่าวและว่า เศรษฐกิจกาตาร์มีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 9.8% ในปี 2555 โดยได้รับแรงส่งจากโครงการก่อสร้างการพัฒนาขยายการส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีเสร็จสิ้นลง ซึ่งถือเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับแรกของโลก รวมถึงการจับจ่ายภาคประชาชนจะคล่องตัวมากขึ้น เพราะรัฐบาลได้ปรับขึ้นเงินเดือนประชาชนกาตาร์ 60% เมื่อปี 2554
นอกจากนี้ สินค้าสำคัญและมีแนวโน้มดีไม่แต่เฉพาะกาตาร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิภาคตะวันออกกลาง คือ เครื่องปรับอากาศ โดยภูมิภาคตะวันออกกลางมีการนำเข้าสูงถึง 285 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัว 38% ส่วนในกาตาร์มีอัตราขยายตัวถึง 209% เนื่องจากมีการก่อสร้างเกิดขึ้นจำนวนมากในกาตาร์ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 หรือมีมูลค่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(390 ล้านบาท) และมีแนวโน้มความต้องการเครื่องปรับอากาศจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการก่อสร้างบ้านพัก โรงแรม อาคารสำนักงาน ร้านค้า
“กาตาร์จะก่อสร้างสนามแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะใช้เทคโนโลยีระดับสูงถึง 12 แห่ง สนามดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะผสมผสานการใช้พลังงานหมุนเวียนจากธรรมชาติ และปล่อยมลพิษต้นเหตุโลกร้อนให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะจะนำไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ได้มาป้อนให้กับระบบปรับอากาศของทุกสนาม รวมทั้งการสร้างระบบขนส่งรถไฟฟ้า ดังนั้นการส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์เครื่องทำความเย็นไปในประเทศกาตาร์จะต้องเน้นสินค้าประหยัดพลังงานและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด"นายภูมิ กล่าว
ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศที่ใช้อยู่ในกาตาร์มีหลายชนิด แตกต่างกันออกไปตามลักษณะสินค้า คือ 1. เครื่องปรับอากาศแบบติดตั้งหน้าต่าง (Window Type) 2. เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วน (Split Type) ไดรับความนิยมติดตั้งใช้ในบ้านเรือนมากขึ้น และ 3. ระบบทำความเย็นแบบศูนย์รวม เป็นระบบทำความเย็นที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นตามกระแสในปัจจุบันที่มีความตื่นตัวในด้านการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ และช่วยในการประหยัดพลังงาน
การนำเข้าเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนของกาตาร์จากทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2551-53 อยู่ระหว่าง มูลค่า 259 - 294 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนำเข้าจาก จีน สหรัฐฯ ไทย มาเลเซีย อิตาลี ซาอุดิอาระเบีย เกาหลีใต้ ตามลำดับ ช่องทางการจำหน่ายผ่านผู้นำเข้า แบ่งได้ 2 ช่องทางคือ 1. ผู้นำเข้าและผู้ค้าส่ง ทำหน้าที่เป็นผู้นำเข้า ขายส่ง ขายปลีก
และ 2. ตัวแทนจำหน่าย(Distributor) ของสินค้ายี่ห้อที่เป็นเอเย่นต์จำหน่าย โครงสร้างราคา การเสนอราคา และการบวกราคาเพิ่ม โดยการเสนอราคา ผู้นำเข้าในรัฐดูไบส่วนใหญ่นิยมให้เสนอราคา C&F กาตาร์เป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ ช่วงฤดูการจำหน่ายประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศ และของภูมิภาคตะวันออกกลาง
อนึ่ง ตลาดกาตาร์ ถือเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของ"ฟอร์บส"โดยมีอำนาจซื้ออยู่ที่ 88,222 เหรียญสหรัฐฯต่อคนต่อปี ซึ่งรัฐบาลกาตาร์ใช้รายได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นงบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อลงทุนสาธารณูปโภค อาทิ ท่าเรือน้ำลึก สนามบินและเครือข่ายรถไฟ รวมถึงการได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมฟุตบอลโลกปี 2565
ทั้งนี้ ในปี 55 ประเทศกาตาร์มีแนวโน้มขยายตัวทางเศรษฐกิจประมาณ 9.8% โดยได้รับแรงส่งจากโครงการก่อสร้างการพัฒนาขยายการส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีเสร็จสิ้นลง ซึ่งถือเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับแรกของโลก รวมถึงการจับจ่ายภาคประชาชนจะคล่องตัวมากขึ้น เพราะรัฐบาลได้ปรับขึ้นเงินเดือนประชาชนกาตาร์ 60% เมื่อปี 2554