ศูนย์วิจัยกสิกรฯ มองยังไม่หมดหวังเฟดใช้ QE3 หากวิกฤติยุโรปเลวร้ายลง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 21, 2012 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 19-20 มิ.ย. 55 ที่ผ่านมา มีผลให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเผชิญแรงเทขายเพิ่มมากขึ้น แม้จะมีการยอมรับว่าเฟดพร้อมจะดำเนินการเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและระบบการเงินของสหรัฐฯ หากสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปเลวร้ายลงก็ตาม

ทั้งนี้ คงต้องยอมรับว่า หากสถานการณ์วิกฤตหนี้ในยุโรปเลวร้ายลงธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็อาจต้องเผชิญกับกระแสการคาดการณ์ และความคาดหวังที่มีต่อการใช้มาตรการ QE รอบใหม่เข้ามาช่วยสนับสนุนและลดความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี แม้มาตรการ QE ของเฟดจะมีส่วนช่วยประคับประคองสภาพคล่องเพื่อให้ตลาดเงินสามารถฟังก์ชั่นไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเฟดอาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้นถึงกรอบเวลา รายละเอียดของสินทรัพย์ที่จะเข้าซื้อ รวมถึงขนาดวงเงินของ QE รอบใหม่

นอกจากนี้ แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย ที่อาจจะยังคงมีต่อเนื่องหากวิกฤตหนี้ยุโรปยังไม่มีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะทำให้จุดยืนเชิงผ่อนคลายของเฟดถูกลดทอนลงไปบางส่วน ขณะที่ ผลกระทบทางอ้อมที่อาจเกิดขึ้นในจังหวะที่เฟดประกาศมาตรการ QE ก็คือกระแสเทขายเงินดอลลาร์ฯ ที่น่าจะมีผลเชื่อมโยงมาหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงค่าเงินยูโร ซึ่งสำหรับทางการยุโรปนั้นการแข็งค่าของเงินยูโรในช่วงที่ความเสี่ยงของวิกฤตหนี้ยูโรโซนเพิ่มมากขึ้น ก็อาจทำให้โจทย์ของการแก้ปัญหามีความซับซ้อนขึ้นไปอีก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป รวมถึงประเทศชั้นนำอื่นๆ ในเวลานี้ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการเลือกใช้เครื่องมือนโยบายการเงิน เพราะแม้สภาวะแวดล้อมทางการเงินที่ผ่อนคลาย อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะถดถอย/ชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจ แต่ก็คงต้องยอมรับว่า ประสิทธิผลและเครื่องมือที่จำกัดมากขึ้นของธนาคารกลาง ไม่น่าจะสามารถพลิกสถานการณ์เศรษฐกิจและยุติภาวะวิกฤตหนี้ยุโรปได้ ดังนั้นในท้ายที่สุดแล้ว การผ่อนความคุมเข้ม และเพิ่มความยืดหยุ่นของกรอบการรักษาวินัยทางการคลังของทางการหลายๆ ประเทศ ก็อาจเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการลดความเสี่ยงของภาวะวิกฤตรอบใหม่ของเศรษฐกิจโลกลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ