บมจ.ไทยออยล์ (TOP) คาดการณ์สถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงครึ่งหลังปี 55 จะยังคงมีความผันผวนจากความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยุโรปและปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะกลับมายืนอยู่เหนือระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อีกครั้งหากกรีซยังคงอยู่ในสหภาพยุโรป(อียู) และอียูสามารถหาแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ปัจจัยพื้นฐานราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว และอุปทานที่จะตึงตัวขึ้นหลังมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านเริ่มบังคับใช้เต็มที่ในวันที่ 1 ก.ค.และปัญหาความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบ ได้แก่ ซีเรีย ซูดาน และอิรัก คาดว่าราคาน้ำมันดิบในช่วงครึ่งหลังจะเคลื่อนไหวในกรอบ 100-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
การเลือกตั้งกรีซจะชี้ชะตากรีซในการเป็นสมาชิกของอียู หากการเลือกตั้งของกรีซนำไปสู่การต้องออกจากอียู จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม อียูไม่น่าจะยอมให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวและจะพยายามทำทุกวิถีทางให้กรีซยังเป็นสมาชิกต่อไป
ส่วนสเปนหลังจากที่ขอรับเงินช่วยเหลือจากอียูไปแล้วเป็นวงเงิน 100 พันล้านยูโร ต้องติดตามดูว่าเงินจำนวนนี้จะเพียงพอที่จะแก้ปัญหาภาคธนาคารในประเทศได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน อิตาลีก็มีความเสี่ยงที่จะต้องขอเงินช่วยเหลือจากอียู เนื่องจากมีสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีสูงถึง 120% เป็นอันดับ 2 รองจากกรีซ
พร้อมมองว่าความต้องการใช้น้ำมันขยายตัวน้อยกว่าคาด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม โดยปกติในช่วงครึ่งหลังของปีความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในช่วงฤดูการท่องเที่ยวไตรมาส 3 และฤดูหนาวในไตรมาส 4 ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมามากแล้วจะมีส่วนทำให้ผู้บริโภคใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย