ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง หลังแข็งค่ากว่า 31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากผลการเลือกตั้งทั่วไปรอบ 2 ของกรีซผ่านพ้นไปด้วยการคงสถานะสมาชิกของกรีซต่อไปในยูโรโซนอย่างน้อยก็ในระยะสั้น นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุนจากแรงขายดอลลาร์ฯ ก่อนการประชุมเฟดอีกด้วย อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยุโรป โดยเฉพาะความเปราะบางของสเปนและอิตาลี ขณะที่ การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินชั้นนำของโลก 15 แห่งโดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ก็เร่งแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเงินเอเชีย และเงินบาทด้วยเช่นกัน ในวันศุกร์ (22 มิ.ย.) เงินบาทอ่อนค่ามาที่ 31.76 เทียบกับระดับ 31.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 มิ.ย.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (25-29 มิ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ และเครื่องชี้เศรษฐกิจประจำเดือนพ.ค.ของไทย รวมถึงระดับความต้องการเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงสิ้นเดือนของกลุ่มผู้นำเข้า ขณะที่ จุดสนใจของสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป อยู่ที่การเจรจาของรัฐบาลใหม่ของกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ Troika (EU-IMF-ECB) และการประชุม EU Summit (28-29 มิ.ย.) ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย. และตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1/2555 (รอบสุดท้าย) ส่วน ตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ปรับลดลง ผิดหวังเฟดไม่ออกมาตรการ QE3 และข้อมูลภาคการผลิตทั่วโลกที่ชะลอลง โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,152.91 จุด ลดลง 1.10% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 27.86% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 22,956.01 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันนักขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 288.99 จุด เพิ่มขึ้น 1.89% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันจันทร์ จากแรงขายทำกำไรที่หักล้างผลบวกจากผลของการเลือกตั้งกรีซ ก่อนที่ดัชนีจะปรับขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ จากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด อย่างไรก็ดี ดัชนีปรับลดลงในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังเฟดไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงข้อมูลภาคการผลิตในสหรัฐฯ และจีน บ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ชะลอตัวลง
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-29 มิ.ย. 2555 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีอาจยังคงแกว่งผันผวน โดยต้องติดตามการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (28-29 มิ.ย.) และการยื่นแผนปฏิรูปโดยรัฐบาลใหม่กรีซต่อทางการยุโรปภายในสิ้นเดือนนี้ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องชี้ที่อยู่อาศัย ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และจีดีพีไตรมาส 1/2555 (รอบสุดท้าย) คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,124 และ 1,110 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,156 และ 1,170 จุด ตามลำดับ