นายคิม แต-จุง นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางเกาหลีใต้เชื่อว่า มีความเป็นไปได้ต่ำที่อัตราเงินเฟ้อในเกาหลีใต้จะทรงตัวอยู่ในระดับสูง
รายงานของนายคิมระบุว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวของดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ได้ลดลงมาอยู่ที่ระดับศูนย์ ซึ่งบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบันจะลดลงไปสู่ระดับที่เหมาะสมในช่วงก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นายคิมยังระบุว่า สาเหตุที่อัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อเทียบเป็นรายปียังทรงตัวอยู่ในระดับสูงในปี 2554 ส่วนเกิดจากการขาดแคลนอุปทานผลิตภัณฑ์การเกษตรและปิโตรเลียมมากกว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราการขยายตัว
อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวหมายถึง จังหวะในการกลับไปสู่ระดับที่เหมาะสมในระยะยาวหรือระดับก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากเหตุการณ์เหนือความคาดหมายทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้า เช่น น้ำมัน พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของเกาหลีใต้มีความเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงที่เหมาะสมนับตั้งแต่มีการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในปี 2541 เป็นต้นมา โดยทรงตัวอยู่ที่ระดับ 6.1% มาเป็นเวลากว่าทศวรรษจนถึงปี 2539 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ 0.2% และได้ลดลงมาสู่ระดับ 3.2% ภายหลังช่วงดังกล่าวโดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.9%
แต่อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในระยะยาวมากขึ้นในปี 2550 ซึ่งได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคในเกาหลีใต้พุ่งทะลุ 3.5% ซึ่งเป็นระดับอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายสูงสุดของธนาคารกลางเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันนับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2551 และทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.0% ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายสูงสุดในปี 2554
ในขณะเดียวกัน นายคิมระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในระยะยาวอยู่ที่ 0.6% พร้อมกับเสริมว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ไตรมาสในการปรับตัวลงมาสู่ระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มในระยะยาวหลังจากที่ได้เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย สำนักข่าวซินหัวรายงาน