คณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจระดับสูงสุดของประเทศเปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของผลผลิตเหล็กกล้าดิบของจีนชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากความต้องการเหล็กปรับตัวลดลง อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน
รายงานของ NDRC ระบุว่า ผลผลิตเหล็กกล้าดิบเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 296.26 ล้านตันในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ลดลงจากการขยายตัว 8.5% ซึ่งบันทึกได้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในเดือนพ.ค. ผลผลิตเหล็กกล้าดิบเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ลดลง 5.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
นอกจากผลผลิตที่ลดลงแล้ว กำไรในภาคการผลิตเหล็กกล้าดิบลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยผู้ประกอบการเหล็กกล้ามีกำไรลดลง 49.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 39.5 พันล้านหยวน (6.27 พันล้านดอลลาร์) ในช่วง 4 เดือนแรก
--สต็อกแร่เหล็กที่ท่าเรือทางทะเลของจีนลดลงต่ำกว่าระดับ 96 ล้านตัน ณ วันที่ 21 มิ.ย.
เว็บไซต์ Mysteel.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวกรองด้านตลาด เปิดเผยตัวเลขทางสถิติว่าสต็อกแร่เหล็กของจีนที่ท่าเรือทางทะเลของจีน 30 แห่งอยู่ที่ 95.83 ล้านตัน ณ วันที่ 21 มิ.ย. ลดลง 600,000 ตันจากสัปดาห์ก่อนหน้า
แร่เหล็กนำเข้าจากอินเดียลดลงราว 850,000 ตันเมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่แร่เหล็กจากบราซิลและออสเตรเลียลดลง 150,000 ตัน และ 160,000 ตัน ตามลำดับ
--สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้าทองแดงบริสุทธิ 301,990 ตันในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 103% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี หรือ 11% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายเดือน
สำหรับทองแดงบริสุทธิที่จีนนำเข้าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 81% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน