นายรามิน เมห์มันปารัสต์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวว่า การตัดสินใจของสหภาพยุโรป (อียู) ที่สั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านจะส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของประเทศสมาชิกเสียเอง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเมห์มันปารัสต์กล่าวว่า คำสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านของอียูนั้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นกลางและไร้เหตุผล ซึ่งจะทำลายบรรยากาศความสัมพันธ์อันดีของความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย
โฆษกของอิหร่านยังกล่าวเสริมด้วยว่า การตัดสินใจที่มีสาเหตุจากประเด็นทางการเมืองนี้จะส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของยุโรปเอง
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อียูได้อนุมัติคำสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
คณะมนตรีกิจการต่างประเทศของอียูได้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว ภายหลังการทบทวนมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านที่กรุงลักเซมเบิร์ก โดยมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่อนุมัติล่าสุดนี้จะมีผลบังคับใช้ตามที่ได้มีการลงความเห็นกันไปก่อนหน้านั้น และข้อยกเว้น 2 ข้อจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ก.ค. ตามกำหนด
มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านล่าสุดได้มีการนำมาใช้เมื่อเดือนม.ค. โดยสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากอิหร่าน แต่ยกเว้นสำหรับการนำเข้าจาก “รายที่มีการทำสัญญาแล้ว" ซึ่งจะยังดำเนินการได้จนถึงวันที่ 1 ก.ค.