สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวลง 50 เซนต์ แตะที่ 78.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 11.40 น.ตามเวลาในลอนดอนวันนี้ เนื่องจากพายุเด็บบี้ไม่ได้พัดกระหน่ำอ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ของสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า การประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้อาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะได้ ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐระบุว่า พายุโซนร้อนเด็บบี้จะเคลื่อนตัวไปทางเหนือของรัฐฟลอริด้าในช่วง 1-2 วันนี้ ก่อนที่จะอ่อนตัวลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและก่อตัวขึ้นใหม่ในมหาสมุทแอตแลนติกในช่วงปลายสัปดาห์นี้
การพยากรณ์สภาพอากาศในช่วงก่อนหน้านี้ระบุว่า มีโอกาสที่พายุเด็บบี้จะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตน้ำมันที่สำคัญของสหรัฐ นอกจากนี้ บริษัทน้ำมันหลายแห่ง ซึ่งรวมไปถึงโคโนโคฟิลิปปส์ และ บีพี ได้ลดกำลังการผลิตลง 35% และ 44% ตามลำดับ เช่นเดียวกัน
ตลาดน้ำมันเผชิญแรงกดดันจากปัญหาหนี้ยุโรป ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนียังคงยืนยันในจุดยืนของประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการแบกรับหนี้สินในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ก่อนหน้าที่การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปจะเปิดฉากขึ้น ในขณะที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวและเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 28 แห่งของสเปนลง 1-4 ขั้น
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 91.9%