นายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ที่กำลังจะมีขึ้นจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการขยายตัวและการจัดตั้งสหภาพการเศรษฐกิจและการเงิน (อีเอ็มยู) ที่แข็งแกร่งขึ้น
“ผมเชื่อว่าสภายุโรปต้องผลักดันอย่างจริงจังต่อวาระการขยายตัวของเรา ขณะเดียวกับที่มีการกำหนดกระบวนการระยะยาวเพื่อสร้างสหภาพเศรษฐกิจและการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริง" นายบาร์โรโซ
ประธานอีซีคาดว่ากลุ่มประเทศสมาชิกจะเห็นพ้องกันเกี่ยวกับแนวทางที่ครอบคลุมของมาตรการขยายตัว เช่น การเพิ่มวงเงินปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป (EIB) การออกพันธบัตรที่ระดมทุนเพื่อโครงการพัฒนาต่างๆ และการใช้กองทุนร่วมในเชิงโครงสร้างของอียูตามเป้าหมายมากขึ้น
นอกจากนี้ คาดว่าประเทศสมาชิกจะให้ความเห็นชอบต่อคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละประเทศที่อีซีบีได้กำหนดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ค. โดยการปฏิรูปเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ขัดขวางศักยภาพด้านการแข่งขันของอียูและปิดกั้นการทำหน้าที่ของตลาดตามที่ควรจะเป็น
ในการประชุมสุดยอดในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ บรรดาผู้นำของอีซี สภายุโรป ยูโรกรุ๊ปและธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะนำเสนอรายงานที่ระบุชัดเจนถึงแนวทางในการสร้างอีเอ็มยูที่มีการรวมตัวกันมากขึ้น
มาตรการที่กลุ่มผู้นำอียูนำเสนอจะมุ่งเน้นที่ 3 ประเด็นหลัก ซึ่งได้แก่ สหภาพการธนาคาร สหภาพการคลัง และการดำเนินการต่อไปสู่สหภาพการเมือง
มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่จะยุติวงจรเสี่ยง ซึ่งการใช้กองทุนจากเงินภาษีประชาชนเพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารจะทำให้ประเทศต่างๆอ่อนแอลง ขณะที่ธนาคารดังกล่าวยุติการปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจที่มีความต้องการเงินทุนอย่างมาก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอลงและส่งผลให้ประเทศต่างๆอ่อนแอมากขึ้นไปอีก
“ในขณะนี้ เราสามารถยุติวงจรเชิงลบนี้ได้ หากเรามีความกล้าพอที่จะจัดตั้งกรอบการทำงานด้านการเงินที่แข็งแกร่งและมีการรวมกลุ่มกันมากขึ้น" นายบาร์โรโซกล่าว