นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)แถลงผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ (ILB217A)ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ครั้งที่ 2 ซึ่งกำหนดให้มีการประมูลในวันที่ 27 มิถุนายน 2555 ว่า พันธบัตรดังกล่าวอายุคงเหลือ 9.24 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.20 ต่อปี โดยรับวงเงินจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลฯ จำนวน 7,180 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนแท้จริงที่ประมูลได้อยู่ที่อัตราร้อยละ 1.100-1.200 ต่อปี อัตราผลตอบแทนแท้จริงถัวเฉลี่ยอยู่ที่อัตราร้อยละ 1.1472 ต่อปี สูงกว่าอัตราส่วนดัชนีเงินเฟ้ออ้างอิง ณ วันชำระเงิน อยู่ที่อัตราร้อยละ 0.12421 ต่อปี
การรับผลประมูล ณ อัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยในครั้งนี้สูงกว่าอัตราส่วนดัชนีเงินเฟ้ออ้างอิง ณ วันชำระเงิน อยู่ที่อัตราร้อยละ +0.12421 ต่อปี ซึ่งเมื่อเทียบกับผลต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยกับอัตราส่วนดัชนีเงินเฟ้ออ้างอิง ณ วันชำระเงิน ในครั้งก่อน (18 เมษายน 2555) มีอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยต่ำกว่าอัตราส่วนดัชนีเงินเฟ้ออ้างอิง ณ วันชำระเงิน อยู่ที่อัตราร้อยละ -0.9195 ต่อปี ซึ่งเป็นการรับผลประมูลที่อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยในการประมูลครั้งก่อน เนื่องจากตลาดตราสารหนี้มีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง
ในการพิจารณารับผลการประมูลพันธบัตรโดยทั่วไปแล้ว สบน. จะพิจารณาถึงต้นทุนการระดมทุนที่สอดคล้องกับผลตอบแทนของตลาด ณ ขณะนั้นเป็นสำคัญ ดังนั้น สบน. จึงเห็นสมควรรับผลการประมูล ในวงเงินจำนวน 7,180 ล้านบาท ที่อัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยร้อยละ 1.1472 ต่อปี ซึ่งเป็นต้นทุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถาณการณ์ตลาดและสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี สบน. จะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ (ILB217A) อีกครั้ง ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2555 นี้ และจะทำให้มีวงเงินรวมของพันธบัตรในรุ่นนี้ มีจำนวนประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่ง สบน. จะจัดประชุม Market Dialogue ในเดือนกันยายน 2555 นี้ และจะดำเนินนโยบายการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนอ้างอิง (Yield Curve)ให้กับพันธบัตรรุ่นดังกล่าว อันจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของไทยต่อไป