ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินยูโรอ่อนค่า เหตุวิตกที่ประชุมอียูไม่คลายวิกฤต

ข่าวต่างประเทศ Friday June 29, 2012 07:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตหนี้ได้ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีและอัตราว่างงานเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้น

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.19% แตะที่ 1.2445 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2469 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.37% แตะที่ 1.5510 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5568 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.38% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.400 เยน จากระดับ 79.700 เยน แต่ดีดตัวขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9645 ฟรังค์ จากระดับ 0.9628 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.43% แตะที่ 1.0034 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0077 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.53% แตะที่ 0.7874 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7916 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตรว่างงานในเดือนมิ.ย.ยังคงทรงตัวอยู่อยู่ที่ระดับ 6.8% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 7,000 ราย มาอยู่ที่ 2.882 ล้านรายในเดือนดังกล่าว

ส่วนอิตาลีระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตร 2 ชุด ได้ 5.423 พันล้านยูโรเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 2.75-5.50 พันล้านยูโร ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อน

นักลงทุนไม่มั่นใจว่าการประชุมอียูครั้งนี้จะไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ได้ เนื่องจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่นว่า เธอไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรหรือตั๋วเงินคลังร่วมกันในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร (ยูโรบอนด์) พร้อมกับเตือนว่ายุโรปไม่ควรหวังว่าจะมีวิธีที่รวดเร็วในการแก้ปัญหาหนี้ในภูมิภาค

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจีดีพีที่แท้จริงขยายตัว 1.9% ในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่สอง ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. ลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งยังคงใกล้เคียงระดับสูงสุดในปีนี้ บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังหยุดชะงัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ