นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ภายหลังจากคณะกรมการพาณิชย์ มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน นำโดย นายซ้งกั่วชิง ผู้อำนวยการสำนักบริการการลงทุนต่างชาติ เข้าพบ ว่า ได้มีการหารือความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนด้านการเกษตรระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งทางมณฑลเหอหนานเป็นมณฑลขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 100 ล้านคน มีความต้องการสินค้าเกษตร พืชผัก ผลไม้ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมขนส่งทางอากาศ การค้าการลงทุนทั้งทางด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม จึงเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะส่งสินค้าเกษตรไปยังมณฑลเหอหนาน โดยเฉพาะยางพารา เนื่องจากมณฑลเหอหนานมีอุตสาหกรรมรถยนต์ และเป็นผู้นำเข้ายางพารารายใหญ่ของโลก
โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเข้ายางพาราจากประเทศไทยรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะขยายความร่วมมือในการส่งออกยางพาราไปยังประเทศจีนในราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการผลักดันราคายางในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง หรือ โครงการหมื่นห้าพันล้าน ที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าของโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ขณะนี้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้อนุมัติเงินกู้แก่สถาบันเกษตรแล้ว 4,600 ล้านบาท มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 400 กว่าราย มีปริมาณการรับซื้อยางเข้ามาอยู่ในโครงการแล้วกว่า 10,000 ตัน จึงได้มีการส่งสารไปยังผู้ประกอบการนำเข้ายางพารารายใหญ่ ทั้งในประเทศจีน อินเดีย ว่าประเทศไทยมียางพาราที่อยู่ในการดูแลของหน่วยงานของรัฐ และพร้อมที่จะขายในราคาที่เหมาะสม โดยพร้อมที่จะเจรจาความร่วมมือกับผู้ประกอบการในทุกประเทศที่ต้องการนำเข้ายางพาราจากไทย นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับวิกฤติการณ์เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป หรือยูโรโซน จึงเตรียมนำรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพฯ และความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก สถาบันเกษตรกร ฯลฯ เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ในวันที่ 6 ก.ค. 55 นี้อีกด้วย