นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(CCI) ในเดือนมิ.ย.55 อยู่ที่ 27.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนพ.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 27.4 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามนับตั้งแต่เดือนเม.ย.55
สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนนี้ คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าโดยทั่วไปชะลอตัวลง, ครม.มีมติขยายเวลามาตรการลดค่าครองชีพต่อไปอีกจนถึง 30 ก.ย.55, โครงการโชห่วยช่วยชาติ, ครม.ขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซลต่ออีก 1 เดือนจนถึง 31 ก.ค.55, การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ส่งผลให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น, สหพันธ์ขนส่งทางบกมีมติให้รถส่งสินค้าทุกสมาคมปรับลดอัตราค่าขนส่งลง 5% เป็นต้น
"ดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้นในเดือนนี้(มิ.ย.) เป็นเพราะราคาน้ำมันลดลง ภาวะราคาสินค้าโดยทั่วไปชะลอตัว นโยบายรัฐบาลที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนยังคงมีต่อไป มีการเลือกตั้งท้องถิ่นในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนมีรายได้หมุนเวียน และการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทั้งสินค้าเบียร์ สุรา รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุ
ส่วนปัจจัยลบที่มีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นฯ คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวนและชะลอตัวลง เช่น ยุโรป สหรัฐฯ และอินเดีย, การผ่อนปรนมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงาน และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาภัยธรรมชาติ
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าในเดือนก.ค.นี้ จะยังมีปัจจัยบวกที่มีผลต่อดัชนความเชื่อมั่นฯ ได้แก่ ครม.มีมติให้ขยายเวลายกเว้นจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่ออีก 1 เดือน, การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-12 ส.ค. และ ครม.อนุมัติโครงการประกันภัยพืชผลปี 55 ขณะที่ปัจจัยที่จะเป็นผลลบ เช่น วิกฤติการเงินในยุโรป, ช่วงฤดูฝนจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่นการท่องเที่ยว การก่อสร้างลดลง และปัจจัยเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้ประชาชนได้เสนอแนะความคิดเห็นต่อภาครัฐ เช่น การดูแลและควบคุมราคาอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค, ดูแลโครงสร้างราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน และค่าสาธารณูปโภค, ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน, กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน รวมทั้งการพัฒนาและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น