นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้ออกคำสั่งบังคับทางปกครองโดยเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ของ 27 บริษัท รวม 280 รุ่น จำนวนกว่า 970,000 เครื่อง ประกอบด้วย โทรศัพท์ของ บมจ.เจ มาร์ท(JMART) ในเจโฟน 8 รุ่น, บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น(TWZ) ในโฟนวัน 29 รุ่นที่เป็นเอกสารปลอม, รุ่นอาม่า กับรุ่นอาม่า พลัส ของบริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ จำกัด และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเอ็มทีเอ็ม (MTM) พบแปลงเอกสาร 45 รุ่น
เนื่องจากมีการใช้รายงานผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการทดสอบของต่างประเทศที่ไม่ได้ออกโดยห้องปฏิบัติการทดสอบของต่างประเทศนั้น หรือมีการปลอมแปลง หรือแก้ไข เปลี่ยนแปลง ลดทอน แต่งเติมเนื้อหาหรือข้อมูลในรายงานผลการทดสอบ ให้ผิดแผกจากรายงานผลการทดสอบต้นฉบับ โดยภายใน 2-3 วันนี้ ทางสำนักงานฯ จะดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งหากผู้ประกอบการทั้ง 27 รายไม่เห็นด้วยกับคำสั่งก็สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครอง
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ปี 52 พบว่ามีโทรศัพท์มือถือที่นำเข้าใช้เอกสารปลอมตั้งแต่ต้นปี 54 ซึ่งวันที่ 20 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา ที่ประชุม กสทช.มีมติให้เพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท และให้ผู้ประกอบการดำเนินการใน 2 ทางเลือก คือ 1.ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำออกเครื่องวิทยุคมนาคมตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศสำนักงาน กสทช.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ และนำเครื่องโทรคมนาคมดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักร และทำลายเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศสำนักงาน กสทช. มีผลบังคับใช้
2.ให้รายงานการครอบครองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์แบบ/รุ่นที่ถูกเพิกถอนเฉพาะแบบ/รุ่นที่ผู้ประกอบการทั้ง 27 รายเป็นผู้นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายหรือใช้งาน แต่มิได้เป็นผู้ยื่นขอและได้รับใบรับรอง ต่อสำนักงาน กสทช. ภายใน 30 วัน ทั้งนี้ ประกาศเพิกถอนใบรับรองเรื่องเครื่องโทรคมนาคม ของกสทช. ยังอยู่ระหว่างรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทั้ง 27 บริษัทนำเข้ามือถือจะมีเวลาดำเนินงานตามข้อ 1 และ ข้อ 2 เป็นเวลา 30 วัน