อัตราเงินเฟ้อรายปีของอินโดนีเซียขยายตัวในอัตรารวดเร็วขึ้นในเดือนมิถุนายน เนื่องจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลล่าสุดนี้อาจส่งผลให้ธนาคารกลางตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมต้นเดือนนี้
นายสุรยามิน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนปรับสูงขึ้นแตะ 4.53% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาอาหารที่สูงขึ้น หลังจากที่เพิ่มขึ้นแตะ 4.45% ในเดือนพฤษภาคม
นายวินุ วาร์ดานะ นักวิเคราะห์จากธนาคารซีไอเอ็มบี ให้ความเห็นว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากวิกฤติในยุโรปและแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้ออาจเพิ่มสูงขึ้นก่อนช่วงเดือนรอมฎอนและงานเฉลิมฉลองของชาวมุสลิม รวมถึงช่วงเปิดภาคเรียนใหม่
นายวินุได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวซินหัวว่า “ธนาคารกลางอินโดนีเซียอาจจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน"
“นอกจากนี้ราคาอาหารและการขนส่งคมนาคมจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงรอมฎอนและงานเฉลิมฉลองของชาวมุสลิม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเปิดภาคการเรียนใหม่" นายวินุกล่าวเสริม
นายสุรยามินให้ข้อมูลว่า เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้อประจำเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.62% ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.07% ในเดือนก่อนหน้า
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน อยู่ที่ 4.15% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแตะ 4.14% ในเดือนพฤษภาคม
รัฐบาลอินโดนีเซียประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ที่ 6.5% สำหรับปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียน่าจะขยายตัวในช่วง 6.3 - 6.7%
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินโดนีเซียได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะพุ่งขึ้นสูงถึง 6.8%