กระทรวงการพัฒนา อุตสาหกรรมและการค้าของบราซิลเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของบราซิลแตะที่ 7.07 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ซึ่งลดลง 45.4% จากปีก่อนและทำสถิติต่ำสุดในรอบทศวรรษ
รายงานของกระทรวงระบุว่า ตัวเลขที่ลดลงบ่งชี้ว่า บราซิลได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีความต้องการที่ลดลงสำหรับสินค้าของบราซิล
นอกจากนี้ ราคาสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดบางรายการของบราซิล เช่น แร่เหล็กและน้ำตาล ยังได้ปรับตัวลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการส่งออกของประเทศลดลงตามไปด้วย
นางทาเทียนา พราเซเรส รัฐมนตรีการค้าต่างประเทศของบราซิลกล่าวว่า "การค้าของบราซิลและทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะย่ำแย่ในปีนี้ อันเนื่องมาจากวิกฤตดังกล่าว"
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของบราซิลแตะที่ 1.1721 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ลดลง 1.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.7% แตะที่ 1.1014 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าหดตัวลง
ในเดือนมิถุนายน บราซิลมียอดเกินดุลการค้า 807 ล้านดอลลาร์ ร่วงลง 81.8% จากเดือนเดียวกันในปี 2554
ส่วนในปีที่ผ่านมา บราซิลมียอดเกินดุลการค้าทั้งสิ้น 2.98 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่ธนาคารกลางบราซิลคาดว่า ตัวเลขจะลดลงอย่างมาก มาอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอาจอยู่ที่ 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน